กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3234
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะสุขภาพจิตของพยาบาลวิชาชีพ : ศึกษาเฉพาะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจิตเวชในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Factors Effecting Mental Health of Professional Nurses : A Case Study of Professional Nurses in Psychiatric Hospitals in Bangkok and Suburbs
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร
Jaturong Boonyarattanasoontorn
ทิวาพร ฟูเฟื่อง
Thiwaphorn Foofueng
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
คำสำคัญ: พยาบาล -- ไทย
Nurses -- Thailand
สุขภาพจิต
Mental health
การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง
Self-care, Health
วันที่เผยแพร่: 1999
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
บทคัดย่อ: ปัจจัยที่มีอิทธพิลต่อภาวะสุขภาพจิตของพยาบาลวิชาชีพ : ศึกษาเฉพาะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจิตเวชในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะสุขภาพจิตของพยาบาลวิชาชีพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยด้านต่างๆ ที่มีออิทธิพลต่อภาวะสุขภาพจิต ในด้านส่วนตัว ครอบครัว เศรษฐกิจ การดูแลสุขภาพ ลักษณะการทำงาน สัมพันธภาพกับผู้ร่วมงาน โดยศึกษาเฉพาะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจิตเวชในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวม 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลศรีธัญญา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และโรงพยาบาลนิติจิตเวช จำนวน 238 คน รวบรวมข้อมูลและนำผลข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ SPSS/PC+ เพื่อศึกษาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบปกติ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมดเป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ยประมาณ 40 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี สมรสแล้ว รายได้เดือนละ 13,000-20,000 บาท มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่วนใหญ่ยังมีภาระหนี้สิน สุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว ทำงานตรงกับสายวิชาชีพ มีประสบการณ์ในการทำงานนาน 21 ปีขึ้นไป และมีโอกาสที่จะเจริญก้าวหนาในตำแหน่งหน้าที่ในสายของวิชาชีพ การศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพจติของพยาบาลพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ (1) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ ความเพียงพอของรายได้ การมีภาะหนี้สิน การต้องทำงานพิเศษเพิ่มรายได้ (2) ปัจจัยด้านการทำงาน ได้แก่ ความยากลำบากในการทำงาน เนื่องจากลักษณะของงานทีหนักและเสี่ยงต่อภยันตราย ปัญหาในการทำงานเป็นทีม ทัศนคตต่อวิชาชีพ ความยากลำบากในการเดินทางมาทำงาน ช่วงเวลาการปฏิบัติงานในยามวิกาล และการปรับเปลี่ยนเวลาทำงานอยู่ตลอด โอกาสก้าวหน้า (3) ปัจจัยด้านสุขภาพ ได้แก่ ความแข็งแรงของสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การดูแลสุขภาพของตนเอง จากผลการวิจัยนำสู่ข้อเสนอแนะดังนี้ (1) กระทรวงสาธารณาสุขเน้นด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอนามัย โดยให้เล็งเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย สนับสนุนและส่งเสริมในเรื่องนี้ ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการและประสานความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้เล็กเห็นความสำคัญ (2) ด้านการทำงาน ต้องปลูกฝังทัศนคติที่ดีในเรื่องนี้ตั้งแต่สถาบันการศึกษาพยาบาล ผู้บริหารทุกระดับชั้นต้องส่งเสริมด้านขวัญกำลังใข ให้โอกาสในการเจริญก้าวหน้า และ (3) ด้านเศรษฐกิจควรปรับปรุงสวัสดิการด้านต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มขึ้น
รายละเอียด: สารนิพนธ์ (สส.ม.) (การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2542
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3234
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Social Work and Social Welfare - Independent Studies

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Factors-Effecting-Mental-Health.pdf
  Restricted Access
13.48 MBAdobe PDFดู/เปิด Request a copy


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น