การสํารวจข้อมูลสุขภาพของประชาชนในชุมชนอําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แบบสหวิชาชีพ

Abstract

ปัจจุบันประชาชนที่อาศัยในชุมชนเมืองมีปัญหาสุขภาพมากขึ้นเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ และการออกกําลังกายที่น้อยลง งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสํารวจข้อมูลสุขภาพของประชาชนแบบสหวิชาชีพ และเปรียบเทียบพฤติกรรมสุขภาพในช่วงวัยต่าง ๆ ในชุมชนตําบลบางโฉลง ตําบลหนองปรือ และตําบลราชาเทวะ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จํานวน 572 คน โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงวัย คือ วัยเยาวชน วัยทํางาน และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยเก็บข้อมูลการตรวจร่างกายทั่วไป การตรวจร่างกายโดยแพทย์แผนจีน และการสัมภาษณ์ด้วยแบบสอบถามที่จัดทําขึ้นแล้วนํามาวิเคราะห์ทางสถิติเชิงพรรณนาและไคสแคว ผลการศึกษาข้อมูลการตรวจสุขภาพประจําปี พบว่าผู้สูงอายุตรวจสม่ําเสมอแตกต่างจากกลุ่มวัยทํางานและวัยรุ่น อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) พฤติกรรมสุขภาพในวัยรุ่นมีพฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสมมากกว่าวัยทํางานและผู้สูงอายุ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) ด้านความรู้ความเข้าใจด้านการใช้ยา พบว่ากลุ่มวัยทํางานและผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจในระดับดี การตรวจร่างกายและสัมภาษณ์โดยแพทย์แผนจีน พบว่าส่วนใหญ่มีลักษณะร่างกายเป็นแบบผู้ที่มีพื้นฐานสุขภาพแบบสมดุลและพื้นฐานสุขภาพแบบค่อนข้างสมดุล (ร้อยละ 55.40)รองลงมาเป็นแบบพื้นฐานร่างกายแบบผสมมากกว่า 2 แบบขึ้นไป (ร้อยละ 20.70) แต่กลุ่มเยาวชนกลับมีภาวะชี่พร่องเพิ่มขึ้น จากผลการศึกษาที่ได้จึงควรนําข้อมูลสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทําโครงการที่กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสําคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทํางาน เพื่อการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพต่อไป

Due to the increasing health problems of the urban population resulting from modern lifestyles characterized by excessive use of technology, unhealthy eating habits, and insufficient exercise, this research aims to conduct an interprofessional survey of health data from members of three communities: Bang-Chalong, Nong-Preu, and Raja-Dheva Sub-districts in Bang Phli District, Samut Prakan Province. The survey population consists of 572 participants, divided into three groups: youths, working-age individuals, and elders aged over 60 years .Data was collected through annual medical health checks; Chinese medical health checks; and questionnaires. Statistical analysis was applied to the collected data. The results from the annual medical health checks indicate that elders take regular health checks more frequently than working-age individuals and youths, with a statistically significant difference (P < 0.05). The health behaviors of youths were found to be less appropriate compared to those of working-age individuals and elders, also statistically significant (P < 0.05). Regarding knowledge of drug use, educated working-age individuals and elders showed a higher level of awareness. From the Chinese medical check and questionnaires, it was found that most people (55.4%) possessed basic balanced health or fairly balanced health. Secondly, 20.7% of participants displayed mixed health patterns involving two or more types of basic balanced health. Notably, Qi deficiency (气虚) was increasing found among youths. The research suggests that local administrative offices utilize these findings to develop health promotion campaigns focusing on youths and working-age individuals in order to prevent the worsening of health issues. This would contribute to fostering a healthier elderly society in the future.