กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4373
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัท : กรณีศึกษา บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ชื่อเรื่องอื่นๆ: The Improvement of the Company Profit : A Case of Prima Gold International Co., Ltd.
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: พนิต กุลศิริ
Panid Kulsiri
ละเมียด ปานเจริญ
Lamiad Pancharoen
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration
คำสำคัญ: การจัดการคลังสินค้า
Warehouses – Management
ระบบการผลิตแบบทันเวลา
Just-in-time systems
การบริหารงานผลิต
Production management
การแข่งขันทางการค้า
Competition
การวิเคราะห์ปัจจัยการผลิตกับผลผลิต
Input-output analysis
อุตสาหกรรมเครื่องประดับ – การตลาด
อุตสาหกรรมเครื่องเพชรพลอย – การตลาด
Jewelry trade – Marketing
วันที่เผยแพร่: 2001
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
บทคัดย่อ: ผลจากวิกฤติทางเศรษฐกิจ ในปี พ.ศ. 2540 ส่งผลให้บริษัทประสพผลขาดทุน พบว่าสาเหตุที่สำคัญมี 2 ประการ ได้แก่ ยอดขายของบริษัทลดลง มากกว่าอัตราการลดลงของอุตสาหกรรมโดยรวมและปัญหา ดอกเบี้ยจ่าย อันสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทมยอดสินค้าคงคลัง มากเกินความจำเป็น ผลจากการศึกษาทำให้ทราบว่า ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ ทอง 24K และเพชรเป็นผลิตภัณฑ์รอง โดยราคาจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ ทอง 24K ราคาใกล้เคียง กับราคาคู่แข่งในตลาด ส่วนผลิตภัณฑ์เพชร ราคาสูงกว่าราคาตลาดประมาณ 10-15% หมวดหมู่ของสินค้าที่ขายได้มูลค่าสูงสุดทั้งทอง 24K และเพชร ได้แก่ หมวดแหวน ( R ) หมวดที่จำหน่ายได้มูลค่าสูง รองลงมาของสินค้าทอง 24K ได้แก่ หมวดสร้อยข้อมือ (L) และสร้อยคอ (N) ส่วนสินค้าเพชร หมวดที่มีมูลค่าจำหน่ายรองลงมได้แก่ หมวดจี้ (P) และต่างหู (E) ซึ่งข้อมูลที่ได้นี้จะนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ผลจากการศึกษาข้อมูลจากแบบสอบถามลูกค้า ทำให้ทราบว่า กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสมัยใหม่วัยทำงาน มีความรู้ในระดับปริญญาตรี มีอายุระหว่าง 20-30 ปีมีรายได้เฉลี่ย 10,000-30,000 บาท และมีสถานภาพโสดเป็นส่วนใหญ่ จากจำนวนแบบสอบถามทั้งหมด ทำให้ทราบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าใหม่จากคำตอบที่ว่าไม่เคยซื้อผลิตภัณฑ์ พรีม่าโกลด์ และปัจจัยที่ทำให้เลือกซื้อสินค้าเนื่องจากดีไซน์สวยหรู ราคาเหมาะสมและบริการที่ประทับใจ จากข้อมูลของฝ่ายขายเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อยอดขาย ได้แก่ ทำเลที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า และของสาขา รูปแบบของสินค้าต้องตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ขาย ราคาขายของสินค้าไม่ควรแพงกว่าราคาในตลาดโดยรวม การส่งเสริมการขาย จะช่วยให้ขายได้มากขึ้น ตามการ จัดกิจกรรมของห้างสรรพสินค้า เพราะสามารถดึงลูกค้าเข้ามายังห้างฯ ได้มากและสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค้ากับการจ่ายเงินในการซื้อสินค้า ได้แก่ การบริการที่ประทับใจของพนักงานขาย โดยการบริการหลังการขาย แนะนำการดูแล และรักษาสินค้าและบริการอื่นๆ ที่ลูกค้าต้องการ จากสิ่งที่ได้ศึกษามาทั้งหมด ทำให้สามารถนำมาวางแผนกลยุทธทางการตลาด เพื่อให้เกิดการขยายตัวทางการตลาดและยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของการศึกษาระบบสินค้าคงคลังของบริษัททำให้ทราบสาเหตุที่ บริษัทมีสินค้าคงคลังมากเกินความจำเป็นจนเป็นสาเหตุให้เกิดดอกเบี้ยจ่ายย และค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาอีกหลายรายการ เมื่อจัดการระบบสินค้าคงคลังใหม่ ผลที่ได้รับ คือ ปริมาณสินค้าคงคลังลดลง และขั้นตอนตลอดจน ระยะเวลาที่ใช้ในระบบลดลง ทำให้เกิดการประหยัดด้านดอกเบี้ยจ่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายในระบบสินค้าคงคลังทั้งหมด
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4373
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Business Administration - Independent Studies

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
The-Improvement-of-the-Company-Profit.pdf
  Restricted Access
6.72 MBAdobe PDFดู/เปิด Request a copy


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น