กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4379
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยที่มีผลต่อการเล่นการพนันฟุตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมตอนต้นของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปรากา
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Factors Affecting Football Gambling in a Private School Samutprakan Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล
Thipaporn Phothithawil
วรพจน์ วิสิฐนนทชัย
Worapoj Wisitnonthachai
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
คำสำคัญ: ฟุตบอล – การพนัน
Soccer – Betting
นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น – ไทย – สมุทรปราการ -- พฤติกรรม
Junior high school students – Thailand – Samut Prakan -- Behavior
โรงเรียนเอกชน – ไทย – สมุทรปราการ
Private schools – Thailand – Samut Prakan
พฤติกรรมเบี่ยงเบน
Deviant behavior
วันที่เผยแพร่: 2013
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนชายหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2. เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนชายหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3. เพื่อศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งด้านครอบครัว ด้านเพื่อน ด้านชุมชน/โรงเรียน และด้านสื่อ ที่มีผลต่อการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนชายหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4. เพื่อศึกษาผลกระทบของการเล่นพนันฟุตบอลของเยาวชนชายหญิงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นการศึกษาในเชิงปริมาณ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ปีการศึกษา 2555 จำนวน 544 คน เครื่องมือที่ใช้การศึกษาเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติไคว์สแควร์ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย แรงจูงใจการเล่นพนันฟุตบอล เพราะ อยากได้เงิน มีระยะเวลาเล่นพนันฟุตบอลมาแล้ว 3 เดือน จะเล่นเมื่อมีโอกาส เล่นอาทิตย์ละครั้งและเดือนละครั้ง เล่นด้วยวิธีการฝากเพื่อน เล่นครั้งละไม่เกิน 100 บาท ใช้เงินของตัวเองมาเล่นพนันฟุตบอล และมีเพื่อนที่รู้ว่าตนเองเล่นพนันฟุตบอล มีทัศนคติ (ด้านบวก) ต่อการเล่นการพนันฟุตบอลอยู่ในระดับมาก ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเคยเล่นหรือไม่เคยเล่นพนันฟุตบอล คือ ครอบครัว ชุมชน/โรงเรียน และสื่อตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างที่เล่นพนันฟุตบอลได้รับผลกระทบปานกลาง ทำให้เสียเงินที่ไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ทำให้สุขภาพจิตไม่ดี เช่น เครียดนอนไม่หลับ และมีผลต่อการเรียน เช่น ไม่มีสมาธิ ส่งงานช้า ผลกระทบจากการเล่นการพนันฟุตยอลในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 0.97 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตามพบว่า เพศ กิจกรรมยามว่าง และการมีพี่น้องมีความสัมพันธ์กับการเคยเล่นหรือไม่เคยเล่นฟุตบอล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 .01 และ .05 และปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งด้านครอบครัว ด้านชุมชน/โรงเรียน และด้านสื่อมีความสัมพันธ์กับการเคยเล่นหรือไม่เคยเล่นพนันฟุตบอล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ข้อเสนอแนะ คือ รัฐบาลควรมีการกำหนดนโยบายให้ผู้รับผิดชอบหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นฟุตบอลของนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ รวมถึงเด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษาและควรมีการเผยแพร่ ผลการศึกษาไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน สถานศึกษาหรือโรงเรียน ผู้ปกครอง เพื่อการรับรู้ และนำไปใช้เป็นข้อมูลหรือป้องปรามต่อปัญหานี้ต่อไป
รายละเอียด: การศึกษาอิสระ (สส.ม.) (บูรณาการนโยบายสวัดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2556
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4379
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Social Work and Social Welfare - Independent Studies

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Factors-Affecting-a-Football-Gambling-in-a-Private-School.pdf
  Restricted Access
12.14 MBAdobe PDFดู/เปิด Request a copy


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น