ไคโตซานต่อการยับยั้งเชื้อรา Aspergillus sp. ในต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วง

Abstract

The fungi are an important problem in seed cultivation. Aspergillus sp. was isolate from red cabbage sprouts by tissue transplanting method. This fungus was cultured and tested inhibition on Potato Dextrose Agar (PDA) mixed with chitosan, in the concentration of 0, 100, 200, 300, 400 and 500 ppm. All of chitosan mixed in Potato Dextrose Agar (PDA) was most effective to inhibition Aspergillus sp. than control (0 ppm). Therefore, were using chitosan 0,100 and 200 ppm to germinate red cabbage sprout. After 2 days planting, treatment used chitosan will help increasing the percentage of seed germination, height of sprouts and reduce the percentage of red cabbage. However, the fungus was found after 8 days of planting. In addition, this research not found infected Salmonella spp. and Escherichia coli in red cabbage sprouts.

เชื้อราที่เป็นปัญหาสำคัญในการเพาะเลี้ยงต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วง จากการแยกเชื้อรา Aspergillus sp. แยกด้วยวิธี tissue transplanting เมื่อทดสอบการยับยั้งการเจริญของเชื้อราด้วยไคโตซาน โดยการนำชิ้นรามาวางบนอาหารเลี้ยงเชื้อ Potato Dextrose Agar (PDA) ผสมด้วยไคโตซานที่มีความเข้มข้น 0 (ชุดควบคุม), 100, 200, 300, 400 และ 500 ppm พบว่าอาหารเลี้ยงเชื้อ PDA ที่ผสมไคโตซานทุกความเข้มข้นมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อราได้ดีกว่าชุดควบคุม เมื่อทดสอบผลของไคโตซานต่อการเพาะเลี้ยงต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วง โดยผสมไคโตซานที่ความเข้มข้น 0 100 และ 200 ppm พบว่าต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วงที่เพาะเลี้ยงโดยผสมไคโตซานที่ระยะเวลา 2 วัน ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดและความสูงต้นอ่อน และลดเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคในต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วงได้ดี อย่างไรก็ตามตรวจพบการเจริญของเชื้อราหลังจากวันที่ 8 ในการเพาะเลี้ยงต้นอ่อน และไม่พบเชื้อแบคทีเรีย Salmonella spp. และ Escherichia coli ในต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วง