กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4936
ชื่อเรื่อง: ความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ : กรณีศึกษา บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Employee's Job Satisfaction at Autoparts Industries : A Case Study of Thai Summit Autoparts Industry Company Limited
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: มาริสสา ทรงพระ
Marsisa Songpra
สมจินดา เถกิงเกียรติ
Somchinda Takengkeat
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration
คำสำคัญ: บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด – พนักงาน
Thai Summit Autoparts Industry Company Limited -- Employees
ความพอใจในการทำงาน
Job satisfaction
อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์
Automobile supplies industry
วันที่เผยแพร่: 2008
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
บทคัดย่อ: การศึกษาอิสระเรื่อง ความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษา : บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด มีวัตถุประสงค์ใน การศึกษา 2 ประการ ประการแรกเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษาบริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ประการที่สอง เพื่อต้องการเปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจในการทำงานตามสถานภาพส่วนบุคคลของพนักงานในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษาบริษัท ไทยซัมมิท โอ โตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา เป็นพนักงานประจำที่ทำงานในบริษัท ไทยซัม มิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด จำนวน 353 คน (ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามปลายปิด ซึ่งแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับ สถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ อายุงาน วุฒิการศึกษา แผนกงาน จำนวน 3 ข้อ ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในการทำงานในด้านต่าง ๆ 12 ด้าน ได้แก่ ด้านลักษณะงาน ด้านความสำเร็จของงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความก้าวหน้าในการทำงาน ด้านสภาพการทำงาน ด้านค่าตอบแทน ด้านสวัสดิการ ด้านความมั่นคงในการทำงาน ด้านการบังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านนโยบายและการบริหาร จำนวน 51 ข้อ แบบสอบถามที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นคำถามที่สร้างขึ้นโดยใช้มาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ใช้วิธีของ Likert คำตอบประเมินเป็น 5 ระดับ คือ เห็นด้วยมากที่สุด เห็นด้วยมาก เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยน้อย และเห็นด้วยน้อยที่สุด กำหนดให้คะแนน 5 4 3 2 1 เมื่อตอบ เห็น ด้วยมากที่สุด เห็นด้วยมาก เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยน้อย และเห็นด้วยน้อยที่สุด ตามลำดับ ส่วน คำถามที่เป็นในเชิงลบ (Negative) ให้คะแนน 1 2 3 4 5 เมื่อตอบ เห็นด้วยมากที่สุด เห็นด้วยมาก เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยน้อย และเห็นด้วยน้อยที่สุด ตามลำดับ และนำข้อมูลที่ได้มาแปรผลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS แล้วนำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติวิเคราะห์เป็นค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่า F - test จากนั้นนำเสนอผลการศึกษาใน รูปแบบของตารางและการบรรยายประกอบความเรียง ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลสามารถสรุปผล การศึกษาได้4 ตอนดังนี้ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุงาน 2 - 4 ปี มีวุฒิการศึกษาในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. และเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในแผนกงานผลิต ตอนที่ 2 ความพึงพอใจในการทำงานในปัจจัยจูงใจของพนักงานพบว่า โดยรวมพนักงานที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในการทำงานระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า พนักงานมีความพึงพอใจในระดับมากในด้านความสำเร็จของงาน ส่วนด้านอื่น ๆ พบว่ามีความพึง พอใจในระดับปานกลาง และสำหรับในด้านความก้าวหน้าในการทำงาน พบว่าเป็นด้านที่พนักงานมี ความพึงพอใจในระดับปานกลาง ด้วยค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตอนที่ 3 ความพึงพอใจในการทำงานในปัจจัยอนามัยของพนักงานพบว่า โดยรวมพนักงานที่เป็นกลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในการทำงานระดับปานกลางและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า พนักงานมีความพึงพอใจในระดับมากในด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ส่วนด้านอื่น ๆ พบว่า พนักงานมีความพึงพอใจในระดับปานกลาง และสำหรับในด้านค่าตอบแทน พบว่าเป็นด้านที่ พนักงานมีความพึงพอใจในระดับปานกลาง ด้วยค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตอนที่ 4 เปรียบเทียบความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน จำแนกตามอายุงาน วุฒิการศึกษาและแผนกงาน พบว่า 1. พนักงานที่มีอายุงานแตกต่างกัน มีความพึงพอใจในการทำงานทั้งในปัจจัยจูงใจ และปัจจัยอนามัย ในภาพรวมไม่แตกต่างกัน 2. พนักงานที่มีวุฒิการศึกษาแตกต่างกันมีความพึงพอใจในการทำงานทั้งในปัจจัยจูงใจและปัจจัยอนามัยในภาพรวมไม่แตกต่างกัน 3. พนักงานที่ปฏิบัติงานในแผนกงานแตกต่างกัน มีความพึงพอใจในการทำงานในปัจจัยอนามัย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับความพึงพอใจในการทำงานในปัจจัยจูงใจ พบว่า พนักงานที่ปฏิบัติงานในแผนกงานแตกต่างกันมีความพึงพอใจในการทำงานในปัจจัยจูงใจไม่แตกต่างกัน
รายละเอียด: การศึกษาอิสระ (บธ. ม.) (การจัดการอุตสาหกรรม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2551.
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4936
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Business Administration - Independent Studies

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Employee’s-Job-Satisfaction-at-Autoparts-Industries-a-Case-Study-of-Thai-Summit-Autoparts-Industry-Company-Limited.pdf9.3 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น