DSpace Repository

ปัจจัยที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการ

Show simple item record

dc.contributor.advisor เสาวนิจ นิจอนันต์ชัย
dc.contributor.advisor Saowanit Nitananchai
dc.contributor.author ศันสนีย์ พลายด้วง
dc.contributor.author Sansanee Plydoung
dc.contributor.other Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
dc.date.accessioned 2023-12-29T06:18:53Z
dc.date.available 2023-12-29T06:18:53Z
dc.date.issued 2007
dc.identifier.uri https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1523
dc.description การศึกษาอิสระ (สส.ม.) (การบริหารสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2550 th
dc.description.abstract การศึกษาวิจัย เรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยในเรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรส และศึกษาปัจจัยต่างๆที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสของนักศึกษามหาวิทยาลัย การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยมีการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักศึกษาชาย หญิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 137 คนผลการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 22 ปีขึ้นไป และกำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 มากที่สุด ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ต่างจังหวัดและพักอาศัยอยู่กับแฟนหรือคนรักมากที่สุด สถานภาพสมรสของบิดามารดา ส่วนใหญ่อยู่ด้วยกัน ในด้านสถานภาพการมีคนรักหรือแฟน ส่วนใหญ่มีคนรักหรือแฟนในปัจจุบันปัจจัยด้านครอบครัว พบว่า ส่วนใหญ่มีระดับทัศนคติต่อปัจจัยด้านครอบครัวโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดานั้น ส่วนใหญ่เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาอยู่ในเกณฑ์ควรปรับปรุง ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและบุตร ส่วนใหญ่เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและตนเองอยู่ในเกณฑ์ควรปรับปรุง ส่วนด้านการอบรมเลี้ยงดูส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าการอบรมเลี้ยงดูโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบเข้มงวดกวดขัน ส่วนใหญ่เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ควรปรับปรุง วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย ส่วนใหญ่เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และวิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย ส่วนใหญ่เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ด้านทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศและการปฏิบัติตนในเรื่องเพศ ส่วนใหญ่มีระดับทัศนคติในเรื่องดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ด้านการเปิดรับสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ พฤติกรรมการเปิดรับสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศโดยรวมนั้น ส่วนใหญ่มีระดับการเปิดรับสื่ออยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ส่วนพฤติกรรมการเปิดรับสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสารสนเทศ ส่วนใหญ่มีการเปิดรับสื่ออยู่ในระดับปานกลาง และในด้านพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศประเภทต่าง ๆ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า บริโภคสื่อประเภทคอมพิวเตอร์ / อินเตอร์เน็ตมากที่สุด รองลงมา คือ สื่อประเภทมือถือ / คลิปวีดีโอ และสื่อประเภทหนังสือการ์ตูนลามกตามลำดับ ในด้านพฤติกรรมของสื่อด้านบุคคลหรือเพื่อนที่คบนั้น ส่วนใหญ่มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของสื่อบุคคลหรือเพื่อนที่คบอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ปัจจัยด้านพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมอยู่ในระดับสูง ส่วนการหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากรกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ ได้แก่ เพศ อายุ ชั้นปีที่กำลังศึกษาอยู่ ภูมิลำเนาเดิม ลักษณะของที่อยู่อาศัยขณะกำลังศึกษาอยู่ สถานภาพสมรสของบิดามารดา และสถานภาพการมีคนรักกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า ปัจจัยด้านประชากรทั้งหมด ส่งผลต่อระดับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ปัจจัยด้านครอบครัว ได้แก่ ปัจจัยด้านครอบครัวโดยรวม , ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดา ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและบุตร วิธีการอบรมเลี้ยงดูกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า ปัจจัยด้านครอบครัวทั้งหมดส่งผลต่อระดับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ส่วนด้านการอบรมเลี้ยงดู ได้แก่ การเลี้ยงดูแบบเข้มงวดกวดขัน การเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย การเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย พบว่า ด้านการอบรมเลี้ยงดูทั้ง 3 แบบนั้น ส่งผลต่อระดับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ด้านทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศและการปฏิบัติตนในเรื่องเพศ พบว่า ทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศและการปฏิบัติตนในเรื่องเพศ ส่งผลต่อระดับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ด้านการเปิดรับสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ได้แก่ พฤติกรรมการเปิดรับสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศโดยรวม พฤติกรรมการเปิดรับสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสารสนเทศ พฤติกรรมของสื่อบุคคลหรือเพื่อนที่คบนั้น พบว่า การเปิดรับสื่อที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ส่งผลต่อระดับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัย ข้อเสนอแนะจากการศึกษา พบว่า ทุก ๆ ฝ่ายควรมีการตระหนักในการร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา ตลอดจนสื่อมวลชนในการป้องและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมทางเพศ ตลอดจนมีการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาแก่กลุ่มวัยรุ่น ทั้งนี้บทบาทของนักสังคมสงเคราะห์ ควรมีบทบาทในการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ให้ดีขึ้น th
dc.language.iso th th
dc.publisher มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ th
dc.rights มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ th
dc.subject เพศสัมพันธ์ก่อนการสมรส th
dc.subject Premarital sex th
dc.subject วัยรุ่น -- พฤติกรรมทางเพศ th
dc.subject Teenagers -- Sexual behavior th
dc.subject นักศึกษา -- พฤติกรรมทางเพศ th
dc.subject College students -- Sexual behavior th
dc.title ปัจจัยที่มีผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรสของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการ th
dc.title.alternative Factors Effecting Premarital Sexual Relation of Undergraduate Student in Private Colleges of Samutprakarn Province th
dc.type Independent Studies th
dc.degree.name สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต th
dc.degree.level ปริญญาโท th
dc.degree.discipline การบริหารสังคม th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account