DSpace Repository

การศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร

Show simple item record

dc.contributor.advisor ณัฎฐ์ษา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
dc.contributor.advisor Nuttsa Sanitvong Na Ayuttaya
dc.contributor.author กวินธิดา ผมงาม
dc.contributor.author Kawinthida Phomngam
dc.contributor.other Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
dc.date.accessioned 2023-12-29T07:52:39Z
dc.date.available 2023-12-29T07:52:39Z
dc.date.issued 2006
dc.identifier.uri https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1532
dc.description การศึกษาด้วยตนเอง (สส.ม.) (การบริหารสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2549. th
dc.description.abstract การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 – 4 ปีการศึกษา 2549 มหาวิทยาลัยเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ได้จำนวน 341 ชุด ข้อมูลวิเคราะห์ได้โดยสถิติพรรณนา และการวิเคราะห์โดยใช้ตารางไขว้ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปร โดยใช้ค่าไค-แสคว์ ( Chi-Square )ผลการศึกษา พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหญิง มีอายุระหว่าง 20 – 21 ปี โดยกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ได้รับเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท/เดือนหรือต่ำกว่า ซึ่งเงินที่ได้มาจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ค่าใช้จ่ายที่ได้รับส่วนใหญ่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย นักศึกษาอาศัยในหอพักที่แยกชายหญิง สถานภาพสมรสของบิดามารดาของนักศึกษาส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ด้วยกัน ด้านแหล่งความรู้เรื่องเพศที่นักศึกษาได้รับเป็นอันดับที่ 1 คือ เพื่อน อันดับรองลงมา คือ ครู และอื่นๆ ได้แก่ ภาพยนตร์ อินเตอร์เน็ต ตำราเรื่องเพศ หนังสือพิมพ์ (ตอบปัญหาเรื่องเพศ) และผู้ปกครองเป็นอันดับสุดท้ายผลการศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยงทุกด้าน คือ เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เคยเที่ยวสถานเริงรมย์ เคยใช้สารเสพติด เคยใช้สื่อที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เคยจับมือถือแขนและกอดจูบกับคนรักหรือเพศตรงข้าม โดยมีสาเหตุมาจากเพื่อนชักชวนและอยากลอง ผลการศึกษาพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ มีเพียงบางส่วนที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งบุคคลที่นักศึกษามีเพศสัมพันธ์ด้วยครั้งแรกส่วนใหญ่เป็นคู่รักหรือแฟน โดยใช้สถานที่พักของตนเองเป็นสถานที่ในการมีความสัมพันธ์ทางเพศ สาเหตุการมีเพศสัมพันธ์มาจากความรักความเสน่หา การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกนักศึกษาส่วนใหญ่มีการป้องกันด้วยวิธีการสวมถุงยางอนามัย นักศึกษาส่วนน้อยที่ไม่มีการป้องกัน เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีเพศสัมพันธ์วันนั้น การมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อๆ มา นักศึกษาเลือกมีเพศสัมพันธ์กับคนเดิมที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยครั้งแรก และมีการป้องกันทุกครั้ง โดยเลือกวิธีการป้องกันด้วยวิธีการสวมถุงยางอนามัย นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่เคยเป็นกามโรค และไม่เคยตั้งครรภ์ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับคนเดียว และต่างคนต่างอยู่ ซึ่งเมื่อนักศึกษามีปัญหาเรื่องเพศส่วนใหญ่จะเลือกปรึกษากับเพื่อน รองลงมา คือ ปรึกษามารดาจากผลการศึกษาดังกล่าว ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายการศึกษาโดยเน้นให้มีการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาให้กว้างขึ้นรวมทั้งครูและผู้ปกครองก็ควรมีการหาความรู้เรื่องเพศศึกษาให้กว้างขึ้นเช่นกัน เพื่อจะได้อธิบายหรือแนะนำเด็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีการปรามปรามสื่อลามกต่าง ๆ ให้หมดไปจากสังคม เพื่อลดพฤติกรรมผิดปกติทางเพศ อันก่อให้เกิดผลเสียด้านอื่นตามมาด้วย th
dc.language.iso th th
dc.publisher มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ th
dc.rights มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ th
dc.subject เพศสัมพันธ์ th
dc.subject Sex th
dc.subject นักศึกษา -- พฤติกรรมทางเพศ th
dc.subject Students -- Sexual behavior th
dc.title การศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร th
dc.title.alternative Sexual Risk Behavior of a Private University Students in Bangkok th
dc.type Independent Studies th
dc.degree.name สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต th
dc.degree.level ปริญญาโท th
dc.degree.discipline การบริหารสังคม th


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account