dc.contributor.advisor |
อารีนา เลิศแสนพร |
|
dc.contributor.advisor |
Areena Lertsaenporn |
|
dc.contributor.author |
ณัฐพล อยู่ประยูร |
|
dc.contributor.author |
Nattapol Yuprayoon |
|
dc.contributor.other |
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare |
|
dc.date.accessioned |
2024-02-23T08:43:59Z |
|
dc.date.available |
2024-02-23T08:43:59Z |
|
dc.date.issued |
2007 |
|
dc.identifier.uri |
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1759 |
|
dc.description.abstract |
การศึกษาอิสระเรื่อง ความสัมพันธ์ของการอบรมเลี้ยงดูกับการปรับตัวทางสังคมของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด : ศึกษาเฉพาะกรณีสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรปราการ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาลักษณะการอบรมเลี้ยงดูของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลให้ผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ได้รับการอบรมเลี้ยงดูต่างกัน (3) เพื่อศึกษาการปรับตัวของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (4) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลให้ผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดมีการปรับตัวต่างกัน (5) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการอบรมเลี้ยงดูกับการปรับตัวของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยผลการศึกษาพบว่า การปรับตัวของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จังหวัดสมุทรปราการ มีผลมาจากปัจจัยด้านการอบรมเลี้ยงดูของผู้ปกครอง โดยผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยจะมีความสามารถในการปรับตัวทางสังคมได้ดีกว่าผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่่ได้รับการอบรมแบบควบคุมใช้อำนาจมากเกินไป และแบบปล่อยปละละเลย โดยเพศมีความสัมพันธ์กับการอบรมเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย การศึกษามีความสัมพันธ์กับการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย การอบรมเลี้ยงดูแบบควบคุมใช้อำนาจ การเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลยและอาชีพมีความสัมพันธ์กับการอบรมเลี้้ยงดูแบบประชาธิปไตย นอกจากนี้การทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างการอบรมเลี้ยงดูทั้ง 3 แบบกับการปรับตัวทางสังคม พบว่า การอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย และการปรับตัวทางสังคมมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในระดับปานกลาง (R=.479) โดยหมายความว่าผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบบประชาธิปไตยสูง ทำให้มีการปรับตัวทางสังคมสูงไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลงานของสุวิทย์ ดวงเวียง (2539) ที่ได้ทำการทดลองศึกษาผลของกิจกรรมกลุ่มที่มีผลต่อการปรับตัวจากครอบครัวของผู้ติดยาเสพติด ที่พบว่ากลุ่มทดลองที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มมีการปรับตัวกับครอบครัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งนี้คือ (1) ผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเหล่านี้ โดยทั่วไปมีการปรับตัวทางสังคมในระดับสูง ถ้าได้รับการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย (2) ในส่วนของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีการปรับตัวทางสังคมในระดับต่ำ เช่น การพูดคุยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาแนะนำต่างๆ ครอบครัวควรเอาใจใส่ ดูแล ช่วยเหลือและติดตาม (3) ในการศึกษาการปรับตัวทางสังคมของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดครั้งต่อไปควรมีการศึกษาโดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อที่การศึกษาจะได้ทราบถึงผลการศึกษาจากสถานที่และลักษณะทางครอบครัวที่ต่างกัน |
th |
dc.language.iso |
th |
th |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
th |
dc.rights |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
th |
dc.subject |
ผู้ติดยาเสพติด -- การฟื้นฟูสมรรถภาพ |
th |
dc.subject |
Drug addicts -- Rehabilitation |
th |
dc.subject |
การปรับตัวทางสังคม |
th |
dc.subject |
Social adjustment |
th |
dc.title |
ความสัมพันธ์ของการอบรมเลี้ยงดูกับการปรับตัวทางสังคมของผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด : ศึกษาเฉพาะกรณีสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรปราการ |
th |
dc.title.alternative |
The Relationship of Child Rearing Styles and Social Adjustment of the Drug Addicts Who Passed Compulsory Rehabilitation Course of Probation Department : A Case Study of Samutprakan Province |
th |
dc.type |
Independent Studies |
th |
dc.degree.name |
สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต |
th |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
th |
dc.degree.discipline |
การบริหารสังคม |
th |