Abstract:
จากการศึกษาเปรียบเทียบวิธีการสกัด 3 แบบ (การใช้เครื่องเขย่า การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงและการสกัดแบบต่อเนื่อง) และตัวทำละลายที่ใช้ในการสกัด 2 ชนิด (เมทานอลและเอทานอล) ที่สามารถสกัดสารสำคัญแอลฟาแมงโกสทีนจากเปลือกมังคุดได้สูงสุด พบว่าการสกัดแบบต่อเนื่องด้วยตัวทำละลายเมทานอลและเอทานอลให้ปริมาณแอลฟาแมงโกสทีนมากกว่าการสกัดด้วยวิธีอื่น การสกัดแบบต่อเนื่องด้วยตัวทำละลายเมทานอลจะให้ปริมาณแอลฟาแมงโกสทีนสูงสุด ในขณะที่การสกัดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยใช้ตัวทำละลายเอทานอลจะให้ปริมาณแอลฟาแมงโกสทีนต่ำสุด ดังนั้นการสกัดแบบต่อเนื่องด้วยตัวทำละลายเมทานอลจัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของวิธีสกัดที่ให้ปริมาณแอลฟาแมงโกสทินสูงจากสารสกัดและผลิตภัณฑ์เปลือกมังคุด นอกจากนี้ยังได้พัฒนาวิธีวิเคราะห์ด้วยเครื่องโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง (เอชพีแอลซี) ให้ได้วิธีที่ง่าย รวดเร็วและจำเพาะแก่การวิเคราะห์แอลฟาแมงโกสทีนในสารสกัดจากเปลือกมังคุดทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ พร้อมทั้งทำการตรวจสอบความถูกต้องของวิธีวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้น พบว่าเป็นวิธีวิเคราะห์ที่ปริมาณสารแอลฟาแมงโกสทีนมีความสัมพันธ์เป็นเส้นตรงกับค่าที่วัดได้ อีกทั้งมีความถูกต้องและแม่นยำสำหรับการควบคุมคุณภาพ