Abstract:
การศึกษาการให้บริการสวัสดิการสังคมแก่เด็กในสถานแรกรับเด็กพญาไท มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการบริการสวัสดิการสังคมของเด็ก การศึกษาความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงาน เกี่ยวกับการจัดบริการสวัสดิการสังคม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนางาน ด้านการจัดบริการสวัสดิการสังคม ในสถานแรกรับเด็กหญิง พญาไท กลุ่มประชากรในการศึกษา คือ ผู้ปฏิบัติงานในสถานแรกรับ จำนวน 34 คน และเด็กจำนวน 64 คน ที่เข้ารับการอุปการะ ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป นำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยใช้โปรแกรม SPSS/PC+ เพื่อหาค่าแจกแจงความถี่อัตราร้อยละ และค่าเฉลี่ย ใช้ตารางประกอบเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า ด้านผู้ให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 41-45 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในตำแหน่งลูกจ้างประจำ สถานภาพสมรสแล้ว ระยะเวลาการทำงาน ระหว่าง 16-20 ปี สาเหตุเข้าทำงานส่วนใหญ่เนื่องจากได้รับคำสั่งจากราชการ และมีจิตใจต้องการช่วยเหลือเด็ก ปัญหาที่พบในการจัดสวัสดิการสังคม ด้านปัจจัยสี่และการเลี้ยงดูด้านการศึกษาและฝึกอาชีพ ด้านสุขภาพอนามัย และด้านสังคม ส่วนใหญ่พบว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ กาทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และยังไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของสถานแรกรับ ส่วนข้อเสนอแนะในการจัดสวัสดิการสังคมในทุกๆ ด้าน ส่วนใหญ่พบว่า ควรเพิ่มปริมาณและคุณภาพของอาหาร ควรเรียนตามหลักสูตรสามัญศึกษาแบบชั่วคราว ควรส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบ บทบาทและหน้าที่ของตนเอง และด้านการป้องกันยาเสพติด รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ด้านจริยธรรมและศีลธรรม ด้านผู้รับบริการ เด็กในความอุปการะส่วนใหญ่ อายุระหว่าง 11-14 ปี กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ระยะเวลารับการอุปการะ 1-4 เดือน สาเหตุที่เข้ารับการสงเคราะห์ เนื่องจากมีปัญหาความประพฤติและครอบครัวแตกแยก ส่วนใหญ่สำนักงานประชาสงเคราะห์จังหวัด เป็นผู้นำส่งขณะอยู่ในสถานแรกรับพบว่าส่วนใหญ่ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย ปัญหาที่พบในการจัดสวัสดิการสังคม ด้านปัจจัยสี่และการเลี้ยงดูด้านการศึกษาและฝึกอาชีพ ด้านสุขภาพอนามัย และด้านสังคม ส่วนใหญ่พบว่า ปริมาณอาหารและน้ำดื่มไม่เพียงพอ จำนวนครูไม่เพียงพอและยังขาดความรู้ความสามารถในการสอน การจัดกิจกรรมการออกกำลังกาย การจัดกิจกรรมกลุ่มบำบัดและกลุ่มนันทนาการยังไม่สม่ำเสมอ ส่วนความต้องการในการจัดสวัสดิการสังคม ส่วนใหญ่เห็นว่ารูปแบบที่พักอาศัยควรแบ่งเป็นห้องอยู่ไม่เกิน 10 คน มีห้องน้ำในตัว การดูแลสุขภาพของเด็ก ควรมีแพทย์หรือบุคลากรภายนอกมาให้ความรู้ และควรเชิญวิทยากรภายนอกมาให้ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย ลักษณะครูผู้สอนต้องการครูที่มีจิตใจเมตตากรุณาเข้าใจและรักเด็กมากกว่าลักษณะอื่นๆ ส่วนด้านการศึกษาและฝึกอาชีพต้องการเงินทุนสนับสนุนเป็นอันดับหนึ่ง ผลการศึกษาครั้งนี้ พบประเด็นที่พิจารณาเป็นข้อเสนอแนะสำหรับสถานแรกรับเด็กหญิง พญาไท คือ ควรพัฒนาและปรับปรุงการจัดบริการสวัสดิการสังคม ด้านบริการขั้นพื้นฐานให้เหมาะสม พอเพียง และมีประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของเด็ก ควรพัฒนาคุณภาพของบุคลากร โดยกระบวนการฝึกอบรม สัมมนา และการศึกษาดูงานนอกสถานที่ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นทางด้านทัศนคติ ความเข้าใจพัฒนาการตามช่วงวัยของเด็ก และควรระดมทรัพยากรภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการดำเนินงานของสถานแรกรับเด็กหญิง พญาไท