การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาความสามารถในการดูแลตนเองและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการดูแลตนเองตามองค์ประกอบสุขภาพดีของพระสงฆ์ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จำนวน 222 รูป เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามความสามารถในการดูแลตนเอง ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนสิงหาคม - กันยายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที (T-test) และค่าเอฟ (F-test) ผลการวิจัยมีดังนี้ ความสามารถในการดูแลตนเองโดยรวมพระสงฆ์ พบว่า อยู่ในระดับสูง (x̄=3.11, S.D. =.47) เมื่อจำแนกรายด้าน พบว่า ความสามารถในการปฏิบัติและคุณสมบัติขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับสูง (x̄=3.17, S.D. =.35 และ x̄=3.17, S.D.=.44 ตามลำดับ) ส่วนพลังความสามารถอยู่ในระดับปานกลาง (x̄=2.99, S.D. =.61) สำหรับปัจจัยด้านอายุ ระดับการศึกษา ดัชนีมวลกาย การมีโรคประจำตัว และจำนวนพรรษา ไม่มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการดูแลตนเองตามองค์ประกอบสุขภาพดีโดยรวม เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า การมีโรคและไม่มีโรคประจำตัวมีความสัมพันธ์กับพลังความสามารถแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 อายุที่แตกต่างกันมีความสัมพันธ์กับคุณสมบัติขั้นพื้นฐานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อแนะนำของการทำวิจัยในครั้งนี้ ควรทำวิจัยในเชิงคุณภาพร่วมด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลรอบด้านของความสามารถในการดูแลตนเองของพระสงฆ์ หรืออาจทำวิจัยเชิงเปรียบเทียบความสามารถในการดูแลตนเองของพระสงฆ์ในเมืองกับนอกเมือง
This descriptive research was to study the self-care agency and to identify factors that were correlated with the self-care agency according to good health components of monks in Dusit District, Bangkok. The sample was 222 priests. The research instruments was the questionnaire about self-care agency. Data collection was collected on August-September, 2016. Data were analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation, T-test, and F-test. Results of the research found that : The self-care agenccy according to good health components of monks was high level (x̄=3.11,S.D. =.47). According to classified list of the self-care agency, it was found that the capabilities for self-care operation and the foundational capabilities were high ((x̄=3.17, S.D. =.35 และ x̄=3.17, S.D.=.44 respectively). The power capabilities for self-care was moderate (x̄=2.99, S.D. =.61) The factors related to age, educational levels, and body mass index, medical conditions, and years of ordinment had no different in the self-care agency according to good health components of monks. According to the classified list of the self-care agency, it was found that the monks with underlying medical conditions and no underlying medical conditions had self-care in the capabilities power statistically significant difference (p<.01). On the other hand, age related to the foundational capabilities had statistically significant at .05 level. This research suggested that qualitative research study should be done in order to reach information all aspects of the self-care agency of the monks. Moreover, the further research would suggest the comparative study of the self-care agency between monks in the urban area and the rural area.