dc.contributor.advisor |
ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา |
|
dc.contributor.advisor |
Thanya Sanitwongse Na Ayuttaya |
|
dc.contributor.author |
นพมณี นาคคง |
|
dc.contributor.author |
Nopmanee Narkkong |
|
dc.contributor.other |
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare |
|
dc.date.accessioned |
2024-12-01T04:11:34Z |
|
dc.date.available |
2024-12-01T04:11:34Z |
|
dc.date.issued |
1997 |
|
dc.identifier.uri |
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3312 |
|
dc.description |
ภาคนิพนธ์ (สส.ม.) (การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2540 |
en |
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการรับรู้สิทธิตามกฎหมายแรงงานของลูกจ้างพาณิชยกรรมและภาคบริการของลูกจ้างเอกชน ผู้ทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นลูกจ้างของกิจการ ห้างร้านในกรุงเทพมหานคร เขตชั้นนอก ชั้นกลาง และ เขตชั้นใน จำนวน 245 คน ใช้วิธีการสำรวจการรับรู้จากกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยแบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้สิทธิตามกฎหมาย 6 ฉบับ โอกาสและช่องทางในการรับรู้สิทธิตามกฎหมายแรงงาน ได้รับแบบสอบถามสมบูรณ์กลับคืนมา 245 ฉบับ จาก 300 ฉบับ และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ SPSS/PC เพื่อการศึกษาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าแปรปรวน ผลการวิจัยพบว่า 1. มีการรับรู้แตกต่างกันไปตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ 6 ฉบับ คือ กฎหมายคุ้มครองแรงงาน มีการรับรู้ค่าเฉลี่ยเพียง 12 ข้อ จาก 23 ข้อ กฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ มีการรับรู้เฉลี่ย 0.77 ข้อ จาก 1 ข้อ พระราชบัญญัติประกันสังคม มีการรับรู้เฉลี่ย 2.19 ข้อ จาก 5 ข้อ พระราชบัญญัติกองทุนเงินทดแทน มีการรับรู้เฉลี่ย 2.15 ข้อ จาก 4 ข้อ พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์มีการรับรู้เฉลี่ยเพียง 0.53 ข้อ จาก 1 ข้อ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีการรับรู้เฉลี่ย 0.71 ข้อ จาก 1 ข้อ 2. ปัจจัยที่มีผลต่อการรับรู้สิทธิตามกฎหมายของลูกจ้างในภาคพาณิชยกรรมและภาคบริการ พบว่า เพศ รายได้ ระดับการศึกษา และอาชีพ มีความสัมพันธ์กับการรับรู้สิทธิอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3. ปัจจัยด้านการรับข้อมูลข่าวสารที่มีผลต่อการรับรู้สิทธิตามกฎหมายแรงงานของลูกจ้างภาคพาณิชยกรรมและภาคบริการ พบว่า กลุ่มตัวอย่างอาศัยการดูโทรทัศน์เป็นตัวกลางในการรับข้อมูล ทั้งข่าวสารทั่วไปและข่าวสารด้านกฎหมายแรงงาน แต่มิได้มีความสัมพันธ์ต่อการรับรู้สิทธิเลย สื่อที่มีประสิทธิผลในการรับรู้กฎหมายแรงงานของลูกจ้างสูงสุด คือ หนังสือกฎหมายแรงงาน ผลการวิจัยครั้งนี้ พบประเด็นที่พิจารณาเป็นข้อเสนอแนะได้ดังนี้ ในเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศและโอกาสทางการศึกษา ควรให้มีการเปลี่ยนแปลงค่านิยม ทัศนคติ ต่อแรงงานหญิง โดยเริ่มจากการกระจายโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกันในสถานศึกษา ควรเพิ่มหลักสูตรกฎหมายแรงงานเบื้องต้นสำหรับลูกจ้าง ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา ส่วนในเรื่องช่องทางการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หรือสร้างความรู้ความเข้าในเรื่องกฎหมายแรงงานนั้น ควรเป็นหน้าที่ของสื่อบุคคล ควบคู่ไปกับสื่อมวลชน โดยสื่อบุคคล ที่มีความสำคัญต่อแรงงาน คือ นายจ้างหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลที่มีอำนาจและถือกฎระเบียบของสถานประกอบการอยู่ แรงงานจะให้ความเชื่่อฟังมากกว่าสื่อบุคคลอื่นๆ ส่วนสื่อมวลชน ควรใช้ความนิยมและความกว้างขวางของเป้าหมายให้เกิดประโยชน์ โดยการสร้างสรรค์รายการที่มีสาระทางด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน มากกว่าเน้นหนักนำเสนอ แต่รายการภาคบันเทิงเพียงอย่างเดียว |
en |
dc.language.iso |
th |
en |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
en |
dc.rights |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
en |
dc.subject |
กฎหมายแรงงาน |
en |
dc.subject |
Labor laws and legislation |
en |
dc.subject |
การรับรู้ |
en |
dc.subject |
Perception |
en |
dc.subject |
สิทธิลูกจ้าง |
en |
dc.subject |
Employee rights |
en |
dc.subject |
ลูกจ้าง |
en |
dc.subject |
Labour |
en |
dc.subject |
การคุ้มครองแรงงาน |
en |
dc.subject |
Labor -- Employee protection |
en |
dc.title |
การรับรู้สิทธิตามกฎหมายแรงงานของลูกจ้างภาคพาณิชยกรรมและภาคบริการ : ศึกษาเฉพาะกรณีลูกจ้างเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร |
en |
dc.title.alternative |
Commercials and Service Labour's Perception on Labour Rights according to Labour Laws |
en |
dc.type |
Independent Studies |
en |
dc.degree.name |
สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต |
en |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en |
dc.degree.discipline |
การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม |
en |