การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะสุขภาพ และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของพนักงานลูกจ้างรายวัน กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานลูกจ้างรายวันสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำนวน 93 คน เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามซึ่งตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาได้ 0.78 - 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุ ผลการศึกษาพบว่า ภาวะสุขภาพของพนักงานลูกจ้างรายวันมีดังนี้ ร้อยละ 59.1 มีความดันโลหิตปกติ ร้อยละ 44.1 เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานระดับปานกลาง ร้อยละ 39.7 มีดัชนีมวลกายปกติ ร้อยละ 88.2 มีความเครียดน้อย และมีพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( x = 2.86, SD = 0.39) การรับรู้สมรรถนะของตนในพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ (Beta = 0.491 )อธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของพนักงานลูกจ้างรายวันได้ร้อยละ 24.1 (R2 = 0.241)
The study aimed to determine health status and health promoting behaviors among the daily employees in a university. The sample of 93 daily employees working in one university, was selected using the purposive sampling method. The research tool of questionnaires were validated by the experts. theirs alpha coeffificient were 0.78-0.86. The data was analyzed by mean, standard deviation, and Multiple Regression Analysis. The results showed that daily employees had normal blood pressure (59.1%), risk of diabetes at the moderate level (44.1%), normal body mass index (39.7 %) and low-level stress (88.2%). Their health promoting behaviors were at the moderate level ( x = 2.86, SD = 0.39). Perceived self-effificacy (Beta = 0.491) could explain health promoting behaviors of the daily employees 24.1 percent of its variance (R2 = 0.241).