Abstract:
ยุทธชัย ป้องหมู่ 992344313
ยุทธชัย วรรณูปถัมภ์ 992377351 Knowledge and Skill of Prisoner Vocational Training at Central Correctional Institution for Young Offenders : Pathumthani Province จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร, อาจารย์ที่ปรึกษา
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และทักษะจากการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขังในทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จังหวัดปทุมธานี และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้ ทักษะ และการนำไปประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษ โดยใช้แบบสอบถามกับผู้ต้องขังที่เข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพภายในทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง จำนวน 125 คน ข้อมูลที่ได้วิเคราะห์โดยสถิถิติเชิงพรรณา และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการศึกษา พบว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ มีอายุ 23 ปี ปี มีการศึกษาระดับมัธมศึกษา สถานภาพยังเป็นโสด ต้องโทษจำคุกมาแล้ว 1 - 2 ก่อนต้องโทษมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ได้รับแรงจูงใจในการฝึกวิชาชีพและเห็นความพร้อมของทัณฑสถาน จึงทำให้มาเข้ารับการฝึกวิชาชีพ เพื่อจะได้นำความรู้และทักษะที่ได้ไปประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษ ผลการศึกษาความรู้ และทักษะจากการฝึกวิชาชีพ พบว่า ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ได้รับความรู้และทักษะจากการฝึกวิชาชีพอยู่ในระดับสูง เเละเห็นว่าจะนำความรู้และทักษะ ไปประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษได้ ผลการศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้และทักษะ พบว่าภูมิหลังของผู้ต้องขัง ไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้และทักษะ เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ด้านแรงจูงใจในการฝึกวิชาชีพ พบว่า มีความสัมพันธ์กับการนำความรู้ ทักษะไปประกอบอาชีพอยู่ในระดับสูง และเมื่อศึกษาถึงความสัมพันธ์ด้านความพร้อมของทัณฑสถาน พบว่า ความพร้อมของทัณฑสถานมีความส้มสัมพันธ์กับทักษะในวิชาชีพและการนำความรู้และทักษะที่ได้ไปประกอบอาชีพเมื่อพ้นโทษ อยู่ในระดับสูง
ปัญหาและอุปสรรค ในการฝึกวิชาชีพ การศึกษา พบว่า การจำกัดจำนวนผู้เข้ารับการฝึกวิชาชีพ การขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก การจัดผู้ต้องขังเข้ารับการฝึกวิชาชีพยังขาดประสิทธิภาพ การขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการฝึกวิชาชีพที่ทันสมัย และผู้ต้องขังต้องทำงานอื่นด้วยและยังต้องฝึกวิชาชีพไปด้วย เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการฝึกวิชาชีพ จากผลการศึกษาดังกล่าว ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะให้กรมราชทัณฑ์ ควรมีนโยบายให้ทัณฑสถานและเรือนจำสร้างแรงจูงใจในการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง โดยการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ต้องขังได้รู้และเข้าใจต่อการฝึกวิชาชีพ การจัดให้มีการรณรงค์ให้หน่วยงานภายนอกปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อผู้ต้องขัง และพร้อมที่จะรับผู้พ้นโทษที่มีความรู้ในด้านด้านวิชาชีพเข้าทำงาน การกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ต้องขังเข้ารับการฝึกวิชาชีพให้ชัดเจน โดยคำนึงถึงความสมัครใจ และการจัดแบ่งกลุ่มผู้ต้องขังที่มีพื้นฐานความรู้ใกล้เคียงกันเป็นสำคัญ ควรมีการสำรวจความต้องการในตลาดแรงงานและนำมาจัดทำเป็นหลักสูตรอบรมรมให้แก่ผู้ต้องขัง และควรมีการศึกษาถึงการปรประกอบวิชาชีพของผู้พ้นโทษที่เคยเข้ารับการฝึกวิชาชีพทั้งในทัณฑสถานและเรือนจำว่า ได้นำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกวิชาชีพไปปฏิบัติจริงหรือไม่ และมีปัญหา อุปสรรคอะไรบ้าง เพื่อนำผลการศึกษามาปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการฝึกวิชาชีพให้เหมาะสมต่อไป