วัตถุประสงค์การวิจัยคือ ศึกษาผลของการออกกำลังกายด้วยเกมฝึกกิจกรรมสองงานด้วยเครื่อง SMARTfit neuro-cognitive trainer (SMARTfit) ต่อทักษะความจำเพื่อใช้งานในนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ผู้เข้าร่วมวิจัยเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี อายุ 18-23 ปี ที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง จำนวน 27 คน สุ่มแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุม 14 คน และกลุ่มฝึก 13 คน กลุ่มควบคุมได้รับความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายแบบกิจกรรมสองงาน และกลุ่มฝึกได้รับการออกกำลังกาย 4 สัปดาห์ ด้วยเครื่อง SMARTfit เป็นเวลา 45 นาทีต่อวัน จำนวน 3 วันต่อสัปดาห์ โดยทั้งสองกลุ่มได้รับการประเมินทักษะความจำเพื่อใช้งานด้วย digit span test ทั้งก่อนและหลังการฝึกวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติพบการกระจายตัวของข้อมูลปกติ จึงใช้สถิติ independent T-test และ dependent T-test วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างกลุ่มและภายในกลุ่ม กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 เมื่อเปรียบเทียบผลก่อนและหลังภายในกลุ่มฝึก พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีคะแนน digit span forward ลดลง และ digit span backward เพิ่มขึ้น แต่ไม่พบความแตกต่างก่อนและหลังภายในกลุ่มควบคุม และไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายแบบกิจกรรมสองงานสามารถใช้เป็นรูปแบบการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาทักษะความจำเป็นเพื่อใช้งานในผู้ที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง อายะ 18-23 ปีได้
The objective of this study was to study the effect of dual-task training with the SMARTfit neuro-cognitive trainer (SMARTfit) on memory in undergraduate students with sedentary behavior. The study was conducted on 27 undergraduate students aged 18-23 years with sedentary behavior. All participants were randomly divided into 2 groups include the control group (n=14) and the exercise group (n=13). The control group received a dual-task training information. The exercise group received dual-task training with the 4-week SMARTfit for 45 minutes per day, 3 days per week. All participants were assessed their working memory skill using digit span test before and after training. The data was normal distribution, so all data were analyzed by the independent T-test and the dependent T-test for between group and within group tested, the statistical significance at P<0.05. The within exercise group showed a significant difference in working memory following the exercise, with a significant decrease in the digit span forward score and a significant increase in the digit span backward score. However, there were no significant differences within the control group and between the groups. Therefore, the dual-task training many serve as an effective exercise for enhancing working memory in individuals with sedentary behaviors aged 18-23 years.
