การศึกษาความเหมาะสมของการใช้กากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียแบบตะกอนเร่งเป็นสารปรับปรุงดิน

Abstract

การวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง เพื่อศึกษาลักษณะสมบัติของกากตะกอนจากระบบน้ำเสียแบบตะกอนเร่ง และศึกษาความเหมาะสมในการนำกากตะกอนไปใช้เป็นสารปรับปรุงดินสำหรับปลูกต้นดาวเรือง โดยผสมกับดินร่วนและปุ๋ยคอกในสัดส่วนต่างๆ 5 รูปแบบ พารามิเตอร์ที่ใช้วัดการเจริญเติบโตของต้นดาวเรือง ประกอบด้วยความสูง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น และความกว้างของดอก รวมทั้ง ทำการวัดค่าความเป็นกรด-ด่างของวัสดุปลูกและอุณหภูมิในอากาส ตลอดระยะเวลาการทดลอง จากผลการศึกษา พบว่า กากตะกอน มีค่าความเป็นกรด-ด่างเท่ากับ 6.1 และมีปริมาณโลหะหนัก (As, Cd, Zn, Cr+6, Pb, Ni, Se, Hg, Cu) ไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยและเกษตรกรรม ของกรมควบคุมมลพิษ ตลอดจนมีศักยภาพในการนำไปใช้ประโยชน์เป็นสารปรับปรุงดิน เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจากมีค่าไนโตรเจน โพแทสเซียม และสารอินทรีย์ในปริมาณสูง โดยรูปแบบของวัสดุปลูกที่เหมาะสมสำหรับใช้ปลูกต้นดาวเรือง ได้แก่ วัสดุปลูกรูปแบบที่ 2 (T2; กากตะกอน 80% ร่วมกับดินร่วน 20%) เนื่องจากทำให้ต้นดาวเรืองมีความสูง ขนาดของลำต้น และความกว้างของดอก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากต้องการให้ดอกดาวเรืองมีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด สามารถพิจารณาการใช้ปุ๋ยคอกร่วมกับกากตะกอนและดินร่วม (วัสดุปลูกรูปแบบที่ 4-5) อย่างไรก็ตาม จากผลการทดลองสมมติฐาน พบว่า รูปแบบของวัสดุปลูกที่แตกต่างกัน ไม่ทำให้ความูงและความกว้างของดอกดาวเรือง มีค่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) แต่ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นของต้นดาวเรืองที่ปลูกโดยวัสดุปลูกรูปแบบที่ 2 และ 3 แตกต่างกับที่ปลูกโดยวัสดุปลูกรูปแบบอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ในช่วงระยะเวลาการปลูก 3 วันแรก

This research was an experimental research for studying of the characteristics of sludge from activated sludge process and feasibility study of the using of sludge as soil improvement for marigold cropping was also mentioned. The sludge was mixed with loam and manure in five different ratios. The growth of marigold was measured including the height, the stem diameter, and the wide of blossom. The pH value of growing media and the atmospheric temperature was also observed through the experiment. From the results, it was found that the pH of the sludge was 6.1 and the amount of heavy metals (As, Cd, Zn, Cr+6, Pb, Ni, Se, Hg, Cu) was not exceed the standard value according to the soil quality standard using for living and agricultural purpose of the Pollution Control Department. The utilization potential as soil improvement for increasing of the plant growth was shown due to high content of nitrogen, potassium, and organic matter was recorded. The second pattern of growing media (T2; sludge 80% combine with loam 20%) was observed as a suitable growing media pattern due to it provides the continuously increasing of height, stem size, and blossom width but of the best perfectly and biggest blossom width is required, the combination of manure, sludge, and loam (growing media pattern of 4-5) should be considered. However, the result of hypothesis test showed that the different of growing media patterns does not show any statistical significant different of height and blossom width (p<0.05) but it shows the statistical significant different of stem diameter in the cropping of second and third growing media patterns within the first 3 days of cropping (p<0.05).