ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดของผู้ต้องขังชายเรือนจำจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้

Abstract

The overcrowding of prisoners in Thai prisons increases the incidence of pulmonary tuberculosis. Therefore, protective behavior becomes significant. This predictive research aimed to study factors predicting behavior to prevent pulmonary tuberculosis infection among 161 male prisoners ina provincial prison in the South. Questionnaires on personal information, perception based on the Health Belief Model, and tuberculosis preventive behaviors were used for data collection. All instruments underwent content validity and reliability testing. Data were analyzed via descriptive statistics and stepwise multiple regression analysis. The research results revealed that the participants had mean scores of pulmonary tuberculosis preventive behaviors at a good level (M = 4.04, SD =.546). Factors that could explain the variation in pulmonary tuberculosis prevention behavior include perceived self-efficacy of pulmonary tuberculosis preventive behaviors (ß =.487, p.001) and perceived benefits of pulmonary tuberculosis preventive behaviors (ß =.172, p =.018). These two variables together explained 33.1% of the variance in pulmonary tuberculosis prevention behaviors among male prisoners (Adjusted R2= 0.331, p <.001).The study outcome enables the authority to understand tuberculosis prevention behaviors among male prisoners and could be used to develop effective programs that emphasize enhancing self-efficacy and perceived benefits of pulmonary TB prevention behaviors so as to prevent them from pulmonary TB infection.

ความหนาแน่นของผู้ต้องขังในเรือนจำประเทศไทย ส่งผลให้อุบัติการณ์วัณโรคปอดเพิ่มขึ้น ดังนั้นพฤติกรรมป้องกันวัณโรคจึงมีความสำคัญ การวิจัยเชิงทำนายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดของผู้ต้องขังชายเรือนจำจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้จำนวน 161 ราย รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล การรับรู้ตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดเครื่องมือทั้งหมดผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและความเชื่อมั่นแล้ววิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและ stepwise multiple regression analysis ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดอยู่ในระดับดี (M = 4.04, SD = .546) ปัจจัยที่สามารถอธิบายความแปรปรวนของพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอด ได้แก่ การรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันวัณโรคปอด (ß = .487, p < .001) และการรับรู้ถึงประโยชน์ของการป้องกันวัณโรคปอด (ß = .172, p = .018)ทั้ งสองปัจจัยสามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดของผู้ต้องขังชายได้ร้อยละ 33.10 (Adjusted R2= 0.331, p < .001) ผลการศึกษานี้นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดของผู้ต้องขังในเรือนจำ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพที่เน้นการเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถตนเองและการรับรู้ประโยชน์ในการป้องกันวัณโรคปอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อวัณโรคปอดในผู้ต้องขังต่อไป