กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3995
ชื่อเรื่อง: การสำรวจความต้องการเนื้อหาของหลักสูตรและวิธีสอนเพศศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 : ศึกษาเฉพาะกรณีโรงเรียนในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ชื่อเรื่องอื่นๆ: A Survey of Needs for Sex Education Curriculum and Its' Teaching Method : A Case Study of Mathayom 1 Students, Amphur Bangplee, Samut Prakarn Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ธัญญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
Thanya Sanitwongse Na Ayuttaya
ธีระ เสนีชัย
Teera Seneechai
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
คำสำคัญ: เพศศึกษา -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)
Sex instruction -- Study and teaching (Secondary)
โรงเรียนมัธยมศึกษา – ไทย
High schools – Thailand
เพศศึกษา – หลักสูตร
Sex instruction – Curricula
ฟรอยด์, ซิกมันด์, ค.ศ. 1856-1939
Freud, Sigmund, 1856-1939
วันที่เผยแพร่: 1996
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
บทคัดย่อ: การทำภาคนิพนธ์ครั้งนี้มีจดประสงค์เพื่อสำรวจจวจความต้องการเนื้อหาของหลักสูตรและวิธีสอนเพศศึกษา และเปรียบเทียบความต้องการเนื้ หลักสูตรและวิธีสอนเพศศึกษาของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยศึกษาจากการสุ่มตัวอย่างแบบง่ายจากนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธอมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2538 ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษาในอำเภอบางพลี จังหวัดสมทรปราการจำนวน 786 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรม SPSS/PC ซึ่งตัวแปรอิสระประกอบด้วย เพศ อายุ รายได้ของครอบครัว การศึกษาของบิดา การศึกษาของมารดา อาชีพของบิดา อาชีพของมารดา การอยู่อาศัย ตัวแปรตามประกอบด้วย เนื้อหาของหลักสูตรและวิธีสอนเพศศึกษา จากการวิจัยพบว่า ความแตกต่างของเพศทำให้ความต้องการเนื้อหาของหลักสูตรเรื่อง ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ ปัญหาการทำแท้งทั้งทางกาย อารมณ์และจิตใจ กฎหมายเกี่ยวกับการประพฤติผิดทางเพศ และการป้องกันตนเองจากการถูกเอาเปรียบทางเพศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 และวิธีจัดสอนเพศศึกษาโดยจัดวิทยากร อาทิ แพทย์ พยาบาล มาให้ความรู้แก่นักเรือนตามความเหมาะสม จัดสอนเพศศึกษาเป็นวิชาบังคับวิชาหนึ่ง จัดแบ่งกลุ่มนักเรียนชายหญิงเมื่อเรียนเรื่องเพศศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ความแตกต่างของอายุทำให้ความต้องการเรือนเนื้อหาของหลักสูตร เรื่องการป้องกันตนเองจากการถูกเอาเปรียบทางเพศ แตกต่างกันอย่างมีนัยส่าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และทำให้ความต้องการวิธีสอนเรื่องจัดนิทรรศการหรือกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับเพศศึกษาในโรงเรียน การสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษา ปัญหาสุขภาพ อนามัยวัยรุ่นไว้ในการเรียนปกติเมื่อมีโอกาสแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติดีที่ระดับ .05 ความแตกต่างของการอยู่อาศัยท่าให้ความต้องการในด้านเนื้อหาของหลักสูตรเรื่องความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบสืบพันธ์ของมนุษย์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติติที่ระดับ .05 จากผลการศึกษาท่าให้มีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1. ควรมีการจัดหลักสูตรเพศศึกษาเป็นวิชาบังคับและควรสอนแบ่งกลุ่มนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย 2. ควรได้มีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุชในการจัดส่งวิทยากรมาให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน 3. ครูและผู้ปกครองควรมีความรู้เพศศึกษาที่ถูกล้อง และยอมรับความคิดเห็นของเด็กและเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำได้ 4. สื่อมวลชนด้านต่าง ๆ ควรจัดเวลาให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาที่ถูกต้อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
รายละเอียด: ภาคนิพนธ์ (สส.ม.) (การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2539
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3995
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Social Work and Social Welfare - Independent Studies

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
A-Survey-of-Needs-for-Sex-Education-Curriculum.pdf
  Restricted Access
12.21 MBAdobe PDFดู/เปิด Request a copy


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น