Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1737
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | ชุติระ ระบอบ | - |
dc.contributor.author | สุชาติ วัฒกานนท์ | - |
dc.contributor.author | มรกต กำแพงเพชร | - |
dc.contributor.author | Chutira Rabob | - |
dc.contributor.author | Suchart Wattaganon | - |
dc.contributor.author | Morakhot Kamphaengphet | - |
dc.contributor.other | Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration | th |
dc.contributor.other | Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration | - |
dc.contributor.other | Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration | - |
dc.date.accessioned | 2024-02-22T14:08:51Z | - |
dc.date.available | 2024-02-22T14:08:51Z | - |
dc.date.issued | 2015 | - |
dc.identifier.uri | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1737 | - |
dc.description.abstract | โครงการวิจัยประเมินหลักสูตร มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจจีน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (หลักสูตรใหม่ 2556) โดยใช้ตัวแบบ CIPP Model ของ Daniel L. Stufflebeam เป็นการประเมินทั้งด้านบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลผลิต ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ บุคคลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับหลักสูตร ได้แก่ ผู้เรียนหรือนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา อาจารย์ผู้สอนประจำหลักสูตรและอาจารย์พิเศษ นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติอย่างง่ายในรูปร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิเคราะห์ข้อมูลสรุปได้ดังนี้ ปัจจัยที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในแต่ละด้าน มีดังนี้ ด้านบริบท ได้แก่ โครงสร้างหลักสูตรและรายวิชา ความเหมาะสมของจำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร มีการเรียงลำดับรายวิชาต่างๆ ในแต่ละชั้นปีเหมาะสม เนื้อหาในรายวิชาตรงตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร เนื้อหาแต่ละรายวิชาไม่ซ้ำซ้อนกัน และวิชาเอกเลือกมีจำนวนหน่วยกิตที่เหมาะสม ด้านปัจจัยนำเข้า ผู้เรียน มีทัศนคติที่ดีต่อสาขาวิชา ผู้สอนเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านวิชาชีพ ด้านกระบวนการ มีการกำหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขต กิจกรรมการเรียนการสอน และการประเมินผลที่ชัดเจน กระตุ้นและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ในชั้นเรียน ระยะเวลาในการเรียนการสอนแต่ละวิชามีความเหมาะสม และส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตประกอบการเรียน ด้านประสิทธิภาพการบริหารหลักสูตร กิจกรรมเสริมหลักสูตรมีหลากหลาย ด้านผลผลิต ได้แก่ มีความรู้ในสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษาอย่างลึกซึ้ง ความรู้ในสาขาวิชาอื่นที่เป็นประโยชน์ การใช้เทคนิคเครื่องมือ และวิธีการวิเคราะห์และแก้ปัญหา ด้านจิตพิสัย มีความคิดริเริ่ม เสียสละและอุทิศตนในการทำงาน ด้านทักษะ ทำงานโดยยึดวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์การ สำหรับข้อเสนอแนะจากผลการอภิปราย คือ เตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาก่อนเรียนและสำเร็จการศึกษา | th |
dc.description.abstract | This research aimed to evaluate the quality management in education of the Bachelor Degree Program in Business Administration (Chinese Business) (Revised Curriculum 2011). The evaluative research was based on the Daniel L. Stufflebeam CIPP Model comprised of context, input, process and outputs, the population included stakeholder such as current students, graduates, employers and lecturers. The research instrument's were questionnaires, interviews and focus group by using simple statistics : frequency, average, standard deviation and descriptive data analyzed. The results of this research represented the maximum scored average in each factors of this model which consist of 1) Context : credits were appropriate, the suitable of the subjects priority, subject matter were in accordance with the curriculum, not complicate in each subjects matters and sufficiency in selected subjects. Input : were the good attitude's learner and the lecturer have code of ethics in career. Process : the objectives, scope, activities and evaluation be clear, it has the impulse and let learner to have suggestion in class, the appropriate of the period of time and promote learners to get used to internet technology. The curriculum have different activities. Output : the graduates have profound knowledge in program, include another knowledge in others subjects for work. Besides graduates have efficiency in techniques and problem solving method. For affective domain graduate have creative mind, sacrifice and dedication. For skill, they abide by organization's objectives and goals. The research suggestion was the curriculum should have the preparation activities for the students before they graduate from university. | th |
dc.description.sponsorship | การวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ปีการศึกษา 2557 | th |
dc.language.iso | th | th |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ | th |
dc.subject | การประเมินหลักสูตร | th |
dc.subject | Curriculum evaluation | th |
dc.subject | การบริหารธุรกิจ -- หลักสูตร | th |
dc.subject | Business administration -- Curricula | th |
dc.subject | การบริหารธุรกิจ -- การศึกษาและการสอน | th |
dc.subject | Business administration -- Study and teaching | th |
dc.title | โครงการวิจัยประเมินหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจจีน (หลักสูตรใหม่ 2554) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ | th |
dc.title.alternative | การวิจัยประเมินหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจจีน (หลักสูตรใหม่ 2554) คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ | th |
dc.title.alternative | The Evaluation of Bachelor Degree Program in Business Administration (Chinese Business) (New Curriculum 2011) Business Administration Faculty Huachiew Chalermprakiet University | th |
dc.type | Technical Report | th |
Appears in Collections: | Business Administration - Research Reports |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Chutira-Rabob.pdf | 79.88 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.