Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2218
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorวิโลวรรณ คมขำ-
dc.contributor.authorกมลทิพย์ ขลังธรรมเนียม-
dc.contributor.authorนพนัฐ จำปาเทศ-
dc.contributor.authorWilaiwan Komkhum-
dc.contributor.authorKamonthip Khungtumneum-
dc.contributor.authorNopphanath Chumpathat-
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Master of Nursing Scienceen
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursingen
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursingen
dc.date.accessioned2024-05-11T07:51:46Z-
dc.date.available2024-05-11T07:51:46Z-
dc.date.issued2022-
dc.identifier.citationวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี 5,2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2565) : 44-56en
dc.identifier.issn2985-0150 (Online)-
dc.identifier.urihttps://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2218-
dc.descriptionสามารถเข้าถึงบทความฉบับเต็มได้ที่ https://he01.tci-thaijo.org/index.php/pck/article/view/257031/174348en
dc.description.abstractการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา1) ระดับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงและ 2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงที่มารับบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลในเขตอําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี จํานวน 130 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มแบบสองขั้นตอนเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลสุขภาพ แบบสอบถามพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงและแบบสอบถามปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดซึ่งมีค่าค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ .82 และ .76ตามลําดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง(M=2.75, SD=.35) ปัจจัยการรับรู้ประโยชน์ การรับรู้ความสามารถของตนเอง อิทธิพลระหว่างบุคคล และอิทธิพลด้านสถานการณ์มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05(rs= .55, .50,.63, .43) ตามลําดับ ส่วนปัจจัยการรับรู้อุปสรรคมีความสัมพันธ์ทางลบกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 (rs= -.53) ผลการวิจัยนี้ สามารถนําไปพัฒนาระบบการติดตามประเมินความเสี่ยงสําหรับการจัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดระดับความเสี่ยงในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดen
dc.description.abstractThis cross-sectional descriptive research aims to study 1) health-promoting behaviors for cardiovascular disease prevention among high-risk diabetes patients with hypertension, and 2) factors relating to health-promoting behaviors for cardiovascular disease (CVD) prevention among high-risk diabetes patients with hypertension. The samples were selected by a two-stage random sampling technique of 130 high-risk diabetes patients with hypertension who were the clients of Tamb on Health Promoting Hospital in Muang District, Phetchaburi Province. A set of questionnaires includes1) Personal and health data, 2) a questionnaire with a reliability of .82 of health-promoting behaviors for CVD prevention among high-risk diabetes patients with hypertension,and3) a questionnaire with a reliability of .76 of the factors related to health-promoting behaviors for CVD prevention among high-risk diabetes patients with hypertension. Data were analyzed by descriptive statistics and Spearman’s Rho correlation. The results reveal that the rate of health-promoting behaviors for CVD prevention among the sample is at a moderate level (M= 2.75, SD= .35).The factors of realization of benefits, self-care capacity, interpersonal influences, and situational necessity have positive statistical relations with CVD prevention behaviors at .05 (rs= .55, .50, .63, .43, respectively) whereas the realization of behavioral barriers has a negative statistical relation with CVD prevention behaviors at.05 (rs= -.53).Based on these results, it is necessary to provides stematic risk monitoring for high-risk diabetes patients with hypertension in order to reduce CVD risk among them.en
dc.language.isothen
dc.subjectเบาหวาน -- ผู้ป่วยen
dc.subjectDiabetesen
dc.subjectน้ำตาลในเลือด -- การควบคุมen
dc.subjectBlood glucose -- Controlen
dc.subjectระบบหัวใจและหลอดเลือด -- โรคen
dc.subjectCardiovascular system -- Diseasesen
dc.subjectความดันเลือดสูง -- การป้องกันen
dc.subjectHypertension -- Preventionen
dc.subjectการดูแลสุขภาพด้วยตนเองen
dc.subjectSelf-care, Healthen
dc.titleปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูงที่มีระดับความเสี่ยงสูงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีen
dc.title.alternativeFactors Related to Health Promoting Behaviors for Cardiovascular Disease Prevention among Diabetes with Hypertensive Patients in a High Risk Level in Muang District Phetchaburi Provinceen
dc.typeArticleen
Appears in Collections:Nursing - Artical Journals

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Cardiovascular-system-Diseases.pdf95.42 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.