ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลที่ขึ้นฝึกปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด

Abstract

งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาลที่ขึ้นฝึกปฏิบัติงานห้องผ่าตัด กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลผู้ใหญ่ 2 และขึ้นฝึกปฏิบัติงานห้องผ่าตัด โรงพยาบาลแห่งหนึ่งสังกัดกรุงเทพมหานคร ในปีการศึกษา 2561 เลือกแบบเจาะจงได้จำนวนรวม 150 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดของแบบสอบถาม ประกอบดเวย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาล และแบบประเมินสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลในห้องผ่าตัด ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาของแบบสอบถามปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาล และแบบประเมินสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลในห้องผ่าตัด ได้เท่ากับ 0.85 และ 0.87 ตามลำดับ และทดสอบความเชื่อมั่น ได้สัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค เท่ากับ 0.95 และ 0.70 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติสหสัมพันธ์และสถิติวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลในห้องผ่าตัดโดยรวมอยู่ในระดับดี (x̄ = 4.03, SD = 0.52) ปัจจัยด้านผู้เรียน ผู้สอน ระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติการพยาบาล และการรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อมในห้องผ่าตัด มีความสัมพันธ์ทางบวกกับสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษาในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = 0.65, 0.65, 0.36, และ 0.50 ตามลำดับ) ทั้งนี้ ปัจจัยด้านผู้เรียน ผู้สอน และการรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อในห้องผ่าตัด สามารถร่วมกันทำนายสมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลชองนักศึกษา ได้ร้อยละ 54.30 (R2=.543, p<.05)

The objective of this study was to predict and analyze relationship between learner factors, teacher factors, time factor and environmental perception factors on nursing performance competencies of nursing students’ training practice in operating room, as well as to study nursing performance competencies for predicting nursing students’ practice in operating room. The samples were third year students of the Faculty of Nursing at Hauchiew Chalermprakiet University. The students have been registered in the Adult Nursing Practicum 2nd course and practiced at a hospital under the Bangkok Metropolitan Administration in the academic year of 2018, The sample size was 150 students. The instruments used in the research were a “Personal Information Questionnaire”, a “Factors influencing nursing practice performance” questionnaire, and a “Nursing performance” questionnaire. The research was tested for content validity with a CVI of 0.85 and 0.87 and reliability was checked Cronbach’s alpha of 0.95 and 0.70. The data were analyzed by using a computer program to find the percentage, average, standard deviation of predictive factors of nursing practice competencies of students using statistics to analyze multiple regressions. The results showed that the sample group had a good level of nursing practice competency in the operating room with an average score of 4.03 percent (SD = 0.52). Teacher factors, timing factors in nursing practice training and the perception of environmental factors in the operating room had a moderate positive relationship with the nursing practice competency of students. Statistical significance at the level of .05 (r = 0.65, r = 0.65, r = 0.36 and r = 0.50, p < 0.01 respectively),and all three variables could predict the nursing practice competencies of the students at 53.30% with statistical significance at the level of .05