Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3535
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorยุพา สุทธิมนัส-
dc.contributor.authorวนิดา ดุรงค์ฤทธิชัย-
dc.contributor.authorทวีศักดิ์ กสิผล-
dc.contributor.authorYupa Suthimanus-
dc.contributor.authorVanida Durongrittichai-
dc.contributor.authorTaweesak Kasiphol-
dc.contributor.otherPranangklao Hospitalen
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursingen
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursingen
dc.date.accessioned2025-01-19T03:00:47Z-
dc.date.available2025-01-19T03:00:47Z-
dc.date.issued2014-
dc.identifier.citationJournal of Public Health Nursing 28, 2 (May - August 2014) : 81-91.en
dc.identifier.urihttps://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/3535-
dc.descriptionสามารถเข้าถึงบทความฉบับเต็ม (Full Text) ได้ที่ : https://he01.tci-thaijo.org/index.php/phn/article/view/48339/40152en
dc.description.abstractการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้โดยใช้รูปแบบการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ของศูนย์ปฏิบัติการพยาบาลขั้นสูงประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลักเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่มีผลทําให้ผู้ดูแลไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้แก่ผู้สูงอายุที่เป็นผู้ใช้บริการของศูนย์สุขภาพชุมชนวัดแคนอก จังหวัดนนทบุรี จากนั้นค้นหาหลักฐานเชิงประจักษ์โดยกําหนดคําสําคัญเพื่อสืบค้นข้อมูลได้งานวิจัยที่เกี่ยวข้องระหว่างพ.ศ. 2549-2554 จํานวน 16 เรื่องประกอบด้วยงานวิจัยเชิงทดลอง 4 เรื่องกึ่งทดลอง 3 เรื่องงานวิจัยและพัฒนา 1 เรื่องเชิงพรรณนา 7 เรื่องการทบทวนงานวิจัยอย่างเป็นระบบ 1 เรื่องประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานโดยใช้เกณฑ์ของเมลนิคและไฟน์เอาท์- โอเวอร์ฮอล์ทจากนั้นวิเคราะห์และสังเคราะห์งานวิจัยจนได้แนวปฏิบัติการพยาบาลที่ประกอบด้วย 1) แบบประเมินความรู้และสมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ประกอบด้วย 1 ข้อมูลทั่วไป 2. ความรู้ของผู้ดูแลเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะเรื่องอาหารการออกกําลังกายการจัดการความเครียดการรับประทานยาปัจจัยเสี่ยงต่อการควบคุมความดันโลหิตการไปพบแพทย์ตามนัด 3. การรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแล 4. การแปลผลความรู้และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแลแบ่งเป็น 3 ระดับคือระดับมากระดับปานกลางระดับน้อย 2) คู่มือสําหรับผู้ดูแลในการดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้ตามระดับความรู้และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแลที่ประเมินได้ 3) แบบบันทึกการดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้สําหรับผู้ดูแล 4) แบบบันทึกการติดตามเยี่ยมบ้านผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้สําหรับพยาบาลวิชาชีพนําแนวปฏิบัติที่สร้างขึ้นไปหาความเป็นไปได้ในการใช้จริงโดยขอความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่านและทดลองใช้กับผู้ดูแล 31 รายเป็นเวลา 4 สัปดาห์ผลการทดลองพบว่าผู้ดูแลมีค่าเฉลี่ยความรู้และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p-value < .05) ผลด้านกระบวนการและผลลัพธ์พบว่าแนวปฏิบัติที่สร้างขึ้นใช้ง่ายไม่ซับซ้อนและพยาบาลวิชาชีพพึงพอใจแนวปฏิบัติการพยาบาลข้อเสนอแนะควรมีการประชุมชี้แจงผู้ใช้แนวปฏิบัติก่อนการนําไปใช้จริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันทั้งขั้นตอนและลําดับการใช้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีการนิเทศติดตามการดูแลของผู้ดูแลอย่างต่อเนื่องen
dc.description.abstractThe objective of this study was to improve the capacity of nursing care of uncontrolled hypertension patients. This study applied the knowledge from the Application of Evidence-Based Practice in The United States of America, by starting with finding causes of uncontrolled hypertension patients in Kae-Nog community, Nonthaburi, Thailand. Then, the researcher searched for related evidence by searching for key words from the data base. After that, the researcher evaluated the reliability of the evidence. The researcher finded 16 related articles published in 2007-2011: 4 articles of Experimental Research; 3 articles of Quasi-Experimental Research; 1 article of Research and Development; 7 articles of Descriptive research; 1 article of Quantitative and Qualitative Research. After analyzing and synthesizing results and data by evaluating the reliability of the evidence with Melnyl and Fineout-Overholt level, the practice guideline for increasing the capacity of nursing care of uncontrolled hypertension patients was created combined with : 1) knowledge and capability evaluation form of caregivers combined with 1. general information of caregivers, 2. knowledge about hypertension, food, exercise, complications, stress management, medication, risk factors for blood pressure control, medical appointment record forms of patients, 3. evaluation of self-perception, 4. evaluation of knowledge and capacity of caregivers separated in three levels; high, middle, and low level. 2) caregivers’ manual grouped by knowledge and capable perception of evaluation levels. 3) the document to record the symptoms and progress of patients 4) the record book for nurses visiting the uncontrolled hypertension elderly form. The practice guideline was evaluated by three experts prior to experimenting with 31 uncontrolled hypertension elderly. After the application of practice guideline for four weeks, the researcher founded that caregivers had better knowledge about taking care of the uncontrolled hypertension elderly. The statistical significant value was at 0.05. The results showed that the practice guideline was simple and friendly user. Nurses were satisfied with guideline. It is recommended that the researcher should arrange session to explain how to use practice guideline, and monitor caregivers continuously.en
dc.language.isothen
dc.subjectผู้สูงอายุen
dc.subjectOlder peopleen
dc.subjectความดันเลือดสูงในวัยสูงอายุ – การดูแลen
dc.subjectHypertension in old age – Careen
dc.subjectแนวปฏิบัติการพยาบาลคลินิกen
dc.subjectClinical nursing practice guidelineen
dc.titleการพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้en
dc.title.alternativeThe Development of a Clinical Nursing Practice Guideline for Caregiver of Uncontrolled Hypertensive Elderly Patientsen
dc.typeArticleen
Appears in Collections:Nursing - Artical Journals

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
The-Development-of-a-Clinical-Nursing-Practice-Guideline.pdf88.06 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.