พฤติกรรมการควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาและการจัดการความเครียดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง และศึกษาความแตกต่างของเพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนและระยะเวลาที่เป็นโรคกับพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 160 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยวิธีการจับสลากเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติวิเคราะห์ t-test และสถิติวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ที่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า พฤติกรรมการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาและการจัดการความเครียดที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (x̄ = 2.29, S.D. = 0.21) เมื่อนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบ พฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง ตามความแตกต่างของ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนและระยะเวลาที่เป็นโรค พบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยงที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือนและระยะเวลาที่เป็นโรคแตกต่างกัน มีพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

The aims of the descriptive research were to study the behaviors of diabetes mellitus in high risk group control. To study the behaviors of food control, exercise, use a medicine and manage the tension and study the different of gender, age, status, income and period of time that is the disease with behaviors of diabetes mellitus in high risk group control at one of the hospital in Samut Prakan province. The uses sampling group of Diabetes mellitus patients in high group at 160 persons amounts who were Sample random sampling replacement. The data used in this research are from relation testing and required a statistic significant in level 0.05. According to the study, behaviors of food control exercise, use a medicine and manage the tension affect diabetes mellitus in high risk group control at one of the hospital in Samut Prakan province level is moderate (x̄ = 2.29, S.D. = 0.21). In comparison between behaviors of diabetes mellitus in high risk group control follow the difference of gender, age, status, income and period of time that is the disease according to diabetes mellitus patients in high risk group that have gender, age, status, income and period of time that is the disease which are different are not differences in required a statistic significant in level 0.05.