Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/400
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorจริยาวัตร คมพยัคฆ์-
dc.contributor.advisorอรพินท์ สีขาว-
dc.contributor.advisorJariyawat Kompayak-
dc.contributor.advisorOrapin Sikaow-
dc.contributor.authorจิตราภรณ์ โพธิ์อุ่น-
dc.contributor.authorJittraporn Phoaun-
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing-
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing-
dc.date.accessioned2022-06-09T14:41:24Z-
dc.date.available2022-06-09T14:41:24Z-
dc.date.issued2019-
dc.identifier.urihttps://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/400-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (พย.ม.) (การพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2562th
dc.description.abstractการวิจัยกึ่งทดลอง แบบ 2 กลุ่ม วัดก่อนและหลังการทดลอง ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมารับการรักษาที่คลินิกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลประชาพัฒน์ จำนวน 44 คน แบ่งเป็นกลุ่มได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม 22 คน และกลุ่มได้รับการรักษาพยาบาลตามปกติ 22 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมที่สร้างขึ้นตามแนวคิดของแคนเฟอร์และกาลิคและคู่มือชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมที่สร้างขึ้น ตามแนวคิดของแคนเฟอร์และกาลิคและคู่มือชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเอง มีค่าความตรง = 0.83 และมีค่าความเชื่อมั่น = 0.90 และแบบวัดความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม มีค่าความเชื่อมั่น = 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสถิติไคสแสควร์ และทดสอบสมมติฐานโดยค่าที ที่ระดับการนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ผลการศึกษาพบว่า 1. หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเอง เพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุ โรคข้อเข่าเสื่อมมีพฤติกรรมการดูแลตนเองและความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมดีกว่าก่อนได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <.05 2. หลังได้รับการรักษาพยาบาลตามปกติ ผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมมีพฤติกรรมการดูแลตนเอง และความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมดีกว่าก่อนได้รับการรักษาพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <.05 3. หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมมีพฤติกรรมการดูแลตนเองดีกว่าผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมหลังได้รับการรักษาพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ < .05 4. หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมมีพฤติกรรมการดูแลตนเองดีกว่าผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมหลังได้รับการรักษาพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <.05 4. หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมมีความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมลดลงกว่าผู้สูงอายุโรคข้อเข่าเสื่อมหลังได้รับการรักษาพยาบาลปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <.05th
dc.description.abstractThis quasi-experimental research aimed to examine the knee osteroarthritis in aging. The sample comprised 44 aging who came for follow up at the orthopedic clini, out patients department of Prachaphat Hospital, Bangkok. The 22 patients were assigned to the comparison group who recived nursing care, and the 22 pateints were assigned to the experimental group and received the self-managemtn to reduce severity of knees osteoarthritis programme. The instruments used for data collection were self-care behaviors questionnaire. The content validity was 0.83, Reliability Cronbach's Alpha test was 0.90, and severity of knee osteoarthritis Reliability Cronbach's Alpha test was 0.90, and sererity of kneew osteoarthritis Reliability Cronbach's Alpha test was 0.96 which following the self-management concept of Kanfer & Gaelick, and reducing severity of knees osteoarthritis handbook. Data were analzed by using descriptive statistics and chi-square, and hypotheses were tested by using independent and paired t-test (p=0.05). The study results revealed as the following. 1) Self-care behaviors of patients in the experimental group after receving the self-management programme was significantly higher than that before. (p=0.05). 2) After reciving the nursing care self-care behaviors to reduce severity of knees osteoarthritis was significantly higher than that before (p=0.05). 3) Self-care behaviors of patients in the experimental group after receiving the self-mamagememt programme was significantly higher than patients in the comparison group who received nursing care. (p=0.05). 4) Severity and clinical systems in the experimental group after receiving the self-management programme was significantly lower than patients in the comparison group who received nursing care. (p=0.05).th
dc.language.isothth
dc.publisherมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติth
dc.subjectข้อเสื่อมth
dc.subjectOsteoarthritisth
dc.subjectผู้สูงอายุ -- โรคth
dc.subjectOlder people -- Diseasesth
dc.subjectการดูแลสุขภาพด้วยตนเองth
dc.subjectSelf-care, Healthth
dc.titleผลของโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุth
dc.title.alternativeEffects of Self-Management Programme to Reduce Severity of Knee Osteoarthritis in Agingth
dc.typeThesisth
dc.degree.nameพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตth
dc.degree.levelปริญญาโทth
dc.degree.disciplineการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนth
Appears in Collections:Nursing - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
JITTRAPORN-PHOAUN.pdf
  Restricted Access
6.35 MBAdobe PDFView/Open Request a copy


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.