Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4716
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorวัชรินทร์ ทายะติ-
dc.contributor.authorธิดาพร ไตรรัตนสุวรรณ-
dc.contributor.authorWatcharin Tayati-
dc.contributor.authorTidaporn Tairattanasuwan-
dc.contributor.otherTrang Hospital. Rehabilitation Department. Physiotherapy Unit. Vestibular Rehabilitation Clinicen
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiat University. Faculty of Physical Therapyen
dc.date.accessioned2025-10-26T05:29:02Z-
dc.date.available2025-10-26T05:29:02Z-
dc.date.issued2024-
dc.identifier.citationวารสารวิชาการสาธารณสุข 33, 5 (กันยายน-ตุลาคม 2567) : 941-949.en
dc.identifier.urihttps://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4716-
dc.descriptionสามารถเข้าถึงบทความฉบับเต็ม (Full Text) ได้ที่ : https://thaidj.org/index.php/JHS/article/view/16002/12601en
dc.description.abstractปัจจุบันเป็นยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเจริญเติบโตในการแพทย์และสาธารณสุข มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบและดูแลสุขภาพ เช่น การนำแพลตฟอร์มดิจิทัลเช้ามาช่วยจัดระบบข้อมูล การวินิจฉัยโรค และพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย อย่างไรก็ดี การใชอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจเป็นเหตุให้เกิด computer vision syndrome (CVS) มีอาการเวียนศีรษะ ตาลาย ตาแห้ง และการมองเห็นไม่มั่นคง นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดความไม่สบายในการมองเห็นและมีอาการปวดศีรษะได้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบอาการ CVS ในกลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์และหน่วยงานสนับสนุนของโรงพยาบาลตรัง ผ่านแบบสอบถามเกี่ยวกับกลุ่มอาการทางตาจากจอภาพคอมพิวเตอร์ (CVS) จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา รวมถึงทดสอบความแตกต่างและเปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างกลุ่มทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม ด้วย Mann-Whitney U test และเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรระหว่างกลุ่มโดยใช้ Chi-square test โดยการศึกษาแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือ ส่วนที่หนึ่งเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของเจ้าหน้าที่ และส่วนที่สองเกี่ยวกับอาการ CVS ผลการศึกษาพบว่า มีผู้เข้าร่วมการศึกษา 139 คน แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์ (85 คน) และกลุ่มหน่วยงานสนับสนุน (54 คน) พบว่า ไม่มีความแตกต่างของข้อมูลพื้นฐานทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสนับสนุนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทำงานประจำที่มีระดับอาการ CVS สูงกว่ากลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์ โดยอาการที่พบมากที่สุด คือ อาการปวดตา แสบตา และปวดศีรษะ การศึกษานี้พบว่า อาการ CVS ในกลุ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกี่ยวข้องกับจำนวนชั่วโมงของการใช้คอมพิวเตอร์ ผลวิจัยนี้สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนานโยบายและมาตรการป้องกัน รวมถึงศึกษาพัฒนาแนวทางการบริหารทางกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูอาการ CVS ในกลุ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในอนาคตได้en
dc.language.isothen
dc.subjectคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมen
dc.subjectComputer vision syndromeen
dc.subjectกลุ่มอาการทางตาจากคอมพิวเตอร์en
dc.subjectกลุ่มอาการทางตาen
dc.subjectOphthalmic syndromesen
dc.subjectการทรงตัวen
dc.subjectEquilibrium (Physiology)en
dc.subjectเวียนศีรษะen
dc.subjectDizzinessen
dc.subjectVertigoen
dc.subjectบุคลากรทางการแพทย์en
dc.subjectMedical personnelen
dc.titleการศึกษาอาการ Computer Vision Syndrome ในกลุ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตรัง: การศึกษานำร่องen
dc.typeArticleen
Appears in Collections:Physical Therapy - Articles Journals

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Computer-Vision-Syndrome-of-Medical-Personel-in-Trang-Hospital.pdf88.23 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.