แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

Abstract

การวิจัยเชิงพรรณาเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเขิงเทรา จำนวน 136 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเขิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคาถมกับจุดประสงค์อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 ความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.80 รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน ผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง การรับรู้โอกาสเสี่ยงและความรุนแรงของโรคมีความสัมพันธ์ทางลบกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การรับรู้ถึงผลประโยชน์ของการรักษาและการป้องกันโรค การรับรู้อุปสรรค การปฏิบัติตนและแรงจูงใจด้านสุขภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

This descriptive correlational study aimed to examine Health Belief Model related to self-care behavior of patients with Hypertension at Bangsamak Sub-district health promoting hospital, Bangpakong District, Chachoengsao Province, The sample consisted of 136 patient. The research instrument was a questionnaire with the content validity approval of the three experts. IOC (Index of Item Objective Congruence) was between 0.67 and 1.00 and its reliability was 0.80. Data collection were carried out in November, 2016. Descriptive statistics and Spearman’s correlation coefficient were used to analyze data. According to the result, overall self-care behavior of patients was at moderate level. The perception of jeopardy and disease severity were negatively correlated with self-care behavior of patients with a significant of 0.01. The perception of the treatment benefits and prevention, as well as the perception of the barriers of their implementation and health motivation was positively correlated to their self-care behavior with a statistical significance of 0.01.