dc.contributor.advisor |
พวงชมพู โจนส์ |
|
dc.contributor.advisor |
Puangchompoo Jones |
|
dc.contributor.author |
กันต์ฤทัย เมฆสุทร |
|
dc.contributor.author |
Kunruetai Megsutorn |
|
dc.contributor.other |
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration |
|
dc.date.accessioned |
2024-03-31T01:39:12Z |
|
dc.date.available |
2024-03-31T01:39:12Z |
|
dc.date.issued |
2010 |
|
dc.identifier.uri |
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1979 |
|
dc.description |
การศึกษาอิสระ (บธ.ม.) (บริหารธุกิจ) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2553 |
th |
dc.description.abstract |
การศึกษางานวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกเข้าศึกษากิจกรรมทางการตลาดที่นักเรียนและอาจารย์แนะแนวให้ความสำคัญ และทัศนคติของอาจารย์แนะแนวต่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ แบบสอบถาม โดยสอบถามจากนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 413 ชุด การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) และใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) การวิจัยครั้งนี้กำหนดความมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพดำเนินการสัมภาษณ์อาจารย์แนะแนว จำนวน 6 ราย ผลการศึกษา พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อายุ 17 ปี มีระดับผลการเรียน 3.00-3.50 ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังกัดโรงเรียนประเภทรัฐบาล มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ภาคใต้ มีรายได้รวมต่อเดือนของครอบครัวเฉลี่ย 10,001-15,000 บาท กรณีที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลไม่ได้ จะเลือกมหาวิทยาลัยเอกชนรองลงมา โดยเลือกมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายส่วนใหญ่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด คือ การเข้าเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย (Open House) และบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ คือ ตัวของนักเรียนเอง ในการประเมินความสามารถของนักเรียนพบว่า นักเรียนประเมินตนเองว่ามีความสามารถปานกลาง และปัจจัยที่มีอิทธิพลที่ส่งผลต่อการเลือกสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในทุกปัจจัย ผลการเปรียบเทียบปัจจัยที่มีอิทธิพลที่ส่งผลต่อการเลือกสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศ ภูมิภาคที่อาศัย แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเกรดเฉลี่ยสะสม รายได้รวมต่อเดือนของครอบครัวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และข้อมูลส่วนบุคคลจำแนกตามเพศ เกรดเฉลี่ยสะสมส่งผลต่อการเลือกประเภทสถาบันอุดมศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จำแนกตามภูมิภาคที่อาศัย และรายได้รวมต่อเดือนของครอบครัว ส่งผลต่อการเลือกประเภทสถาบันอุดมศึกษาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และการประเมินความสามารถตนเองต่อการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดที่สถาบันอุดมศึกษาเอกชน จัดขึ้น มีความสัมพันธ์แบบแปรผกผันตามกัน ส่วนการสัมภาษณ์อาจารย์แนะแนวเกี่ยวกับทัศนคติของอาจารย์แนะแนะต่อสถาบันอุดมมศึกษาเอกชน พบว่า อาจารย์แนะแนวมีทัศนคติในด้านบวกต่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในด้านความไว้วางใจและเชื่อมั่นความมีชื่อเสียงและการได้รับการยอมรับมาตรฐานความทันสมัย หลักสูตรสาขาวิชาที่หลากหลาย มีสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย และอาจารย์ให้การดูแลนักศึกษาเป็นอย่างดี รวมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนควรจัดกิจกรรมมากที่สุดให้กับนักเรียน ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกสถาบันอุดมศึกษาเอกชน คือ กิจกรรมเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย (Open House) และ ควรมีการเสริมทักษะความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการสอนของอาจารย์แนะแนวด้วย |
th |
dc.language.iso |
th |
th |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
th |
dc.rights |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
th |
dc.subject |
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน -- การรับนักศึกษา |
th |
dc.subject |
Universities and colleges -- Admission |
th |
dc.subject |
การสื่อสารทางการตลาด |
th |
dc.subject |
Communication in marketing |
th |
dc.subject |
การจูงใจ (จิตวิทยา) |
th |
dc.subject |
Motivation (Psychology) |
th |
dc.title |
การพัฒนากิจกรรมทางการตลาดสำหรับสถาบันอุดมศึกษาเอกชนของไทย |
th |
dc.title.alternative |
Marketing Activity Development for Private Higer Education Institutions of Thailand |
th |
dc.type |
Independent Studies |
th |
dc.degree.name |
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต |
th |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
th |
dc.degree.discipline |
บริหารธุกิจ |
th |