dc.contributor.advisor |
วรสิทธิ์ จักษ์เมธา |
|
dc.contributor.advisor |
Worasith Jackmetha |
|
dc.contributor.author |
ชัยเยาว์ ตระกูลมหชัย |
|
dc.contributor.author |
Chaiyao Takulmahachai |
|
dc.contributor.other |
Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration |
|
dc.date.accessioned |
2024-08-05T14:28:01Z |
|
dc.date.available |
2024-08-05T14:28:01Z |
|
dc.date.issued |
2005 |
|
dc.identifier.uri |
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2549 |
|
dc.description |
ภาคนิพนธ์ (บธ.ม.) (บริหารธุรกิจ) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2548. |
en |
dc.description.abstract |
การศึกษาเรื่อง “พฤติกรรมการใช้พลังงานของประชากรหลังจากมีการรณรงค์ให้ประชาชนมีการประหยัด : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนในเขตจังหวัดสมุทรปราการ” มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของประชาชนในเขตจังหวัดสมุทรปราการ ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากมีการรณรงค์ให้มีการประหยัดพลังงาน ศึกษาถึงลักษณะส่วนบุคคลว่ามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการประหยัดพลังงานหรือไม่ และการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการประหยัดพลังงาน ในการศึกษานี้ผู้วิจัยใช้วีธีการสุ่มตัวอย่างจากประชาชนในเขตต่างๆ ในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 405 ตัวอย่างและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถอมหลังจากทำการตรวจสอบข้อมูลในแบบสอบถามและทำการวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม SPSS โปรแกรม MS-Excel และโปรแกรม MS-Access ร่วมในการประมวลผล จากการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 30-39 ปี มีรายได้มากกว่า 10.000 บาท สมรสแล้ว มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท จบการศึกษาในมัธยมศึกษาหรือ ปวช. ถึงระดับปริญญาตรี มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวมากกว่า 5 คน ส่วนใหญ่แล้วมีการตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศสูงกว่า 25 องศา 55.8% โดยมีการเปลี่ยนแปลงเทียบกับก่อนการรณรงค์ในทางประหยัดเพิ่มขึ้น 20.7% สำหรับตู้เย็นส่วนใหญ่มีจำนวนตู้เย็น 1 เครื่องคิดเป็น 78.3% โดยมีการเปลี่ยนแปลงในทางประหยัดเทียบกับก่อนการณรงค์เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.7% สำหรับโทรทัศน์ส่วนใหญ่มีโทรทัศน์ 1 เครื่องคิดเป็น 46.9% โดยมีการเปลี่ยนแปลในทางประหยัด 4.2% และมีการปิดโทรทัศน์ที่เครื่องรับถึง 58% การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่โดยมีความตั้งใจเลือกใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงานพบว่ามีการซื้อเครื่องปรับอากาศแบบประหยัด 35.3% หลอดไฟ 44.9% กลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีรถจักรยานยนต์คิดเป็น 48.1% มีรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน คิดเป็น 41.2% มีรถยนต์จำนวน 1 คัน คิดเป็น 46.7% และไม่มีรถยนต์ 33.1% มีการควบคุมความเร็วรถในช่วง 80-90 กม./ชม. คิดเป็น 54.8% โดยมีกการเปลี่ยนแปลงมาควบคุมความเร็วรถในขณะขับขี่มากขึ้นจากเดิม 18.8% มีการดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถนานคิดเป็น 61.5% เปลี่ยนแปลงในทางประหยัดเพิ่มขึ้น 7.7% พบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการประหยัดพลังงานโดยการมีจำนวนตู้เย็นมีความสัมพันธ์กับเพศ อายุ รายได้ และจำนวนสมาชิกในครอบครัว จำนวนโทรทัศน์มีความสัมพันธ์กับอายุ จำนวนรถจักรยานยนต์สัมพันธ์กับอายุ การควบคุมความเร็วรถและการดับเครื่องเมื่อจอดรถสัมพันธ์กับเพศ อาชีพ การศึกษา และจำนวนสมาชิกในครอบครัว การปฏิบัติตามกฎจราจรสัมพันธ์กับเพศ และจำนวนสมาชิกในครอบครัวและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์สัมพันธ์กับเพศ การศึกษาและจำนวนสมาชิกในครอบครัว ลักษณะส่วนบุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงมาปฏิบัติตามรณรงค์มากขึ้นมีลักษณะเป็นเพศชาย อายุอยู่ในช่วง 30-39 ปี รายได้มากกว่า 10,000 บาท สมรสแล้ว อาชีพพนักงานบริษัท การศึกษามัธยมปลาย ปวช. สมาชิกในครอบครัวมากกว่า 5 คน การรณรงค์ที่ควรดำเนินการ ได้แก่ การควบคุมจำนวนรถต่อครอบครัว การรณรงค์โดยใช้การอบรม และการใช้ป้ายประกาศเหตุผลในการปฏิบัติตามการรณรงค์ประหยัดพลังงาน คือ ประหยัดเงินส่วนตัว การมีอุปกรณ์ประหยัดพลังงานให้เลือกมาก |
en |
dc.language.iso |
th |
en |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
en |
dc.rights |
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ |
en |
dc.subject |
การใช้พลังงานไฟฟ้า -- ไทย -- สมุทรปราการ |
en |
dc.subject |
Electric power consumption -- Thailand -- Samut Prakarn. |
en |
dc.subject |
การอนุรักษ์พลังงาน -- ไทย -- สมุทรปราการ |
en |
dc.subject |
Energy conservation -- Thailand -- Samut Prakarn. |
en |
dc.title |
พฤติกรรมการใช้พลังงานของประชาชนหลังจากมีการรณรงค์ให้ประชาชนมีการประหยัด : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนในเขตจังหวัดสมุทรปราการ |
en |
dc.title.alternative |
A Study of People Behavior in Energy Conservation : A Case Study of Samutprakarn Province |
en |
dc.type |
Independent Studies |
en |
dc.degree.name |
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต |
en |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en |
dc.degree.discipline |
บริหารธุรกิจ |
en |