Abstract:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปรแตสแตนท์ ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาอิทธิพลของกระบวนการอบรมจริยธรรมความซื่อสัตย์จากครอบครัว โรงเรียนและคริสตจักรที่มีผลต่อพฤติกรรมจริยธรรมความซื่อสัตย์ 3) ศึกษาปัจจัยที่ทำให้นักเรียนมีพฤติกรรมความซื่อสัตย์ต่างกัน ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่คริสตจักรในวันอาทิตย์ โดยใช้แบบสอบถมและแบบวัดวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนจำนวน 384 คน เพศชายคิดเป็นร้อยละ 53.6 เพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 46.4 ส่วนใหญ่บิดามารดาอยู่ด้วยกัน นักเรียนพักอาศัยอยู่กับบิดามารดา และส่วนใหญ่บิดามารดา มีอาชีพรับจ้าง นักเรียนส่วนใหญ่เรียนอยู่ในโรงเรียนทั่วไป (ไม่อิงศาสนา) มีบิดามารดานับถือศาสนาคริสต์ และนักเรียนนับถือศาสนาคริสต์ตามบิดามารดาตั้งแต่เกิด จากการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของนักเรียน สรุปได้ว่า กลุ่มตัวอย่างมีความซื่อสัตย์อยู่ในระดับ 3 คือ การกระทำตามแบบที่ผู้อื่นเห็นชอบ ส่วนปัจจัยที่ทำให้นักเรียนกลุ่มดังกล่าว มีระดับความซื่อสัตย์ต่างกัน คือ นักเรียนที่มีบิดามารดานับถือศาสนาคริสต์ และการเรียนในโรงเรียนอิงศาสนา (ศาสนาคริสต์) มีพฤติกรรมความซื่อสัตย์สูงกว่านักเรียนที่บิดามารดานับถือศาสนาอื่นและนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนทั่วไป และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของนักเรียน ได้แก่ ศาสนาของบิดา การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม การเห็นแบบอย่างจากบิดามารดา และการได้รับการศึกษาอบรมคุณธรรมจริยธรรมจากคริสตจักร จากผลการวิจัย ผู้วิจัยจึงขอเสนอแนะว่า บิดามารดาจะต้องเป็นแบบอย่างการประพฤติตนตามแนวทางศาสนาให้แก่ลูก โดยคริสตจักรจัดแนะแนวทางบิดามารดาให้สามารถอบรมเลี้ยงดูลูกอย่างเหมาะสม และจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้เข้าร่วมทำกิจกรรมกลุ่ม ซึ่งจะช่วยทำให้นักเรียนได้เรียนรู้การปฏิบัติตนอย่างบิดามารดา และมีความซื่อสัตย์ต่อไป