Abstract:
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาด้านสวัสดิการสังคมของคนพิการที่จดทะเบียนคนพิการ เพื่อศึกษาความต้องการสวัสดิการที่คนพิการต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ และเพื่อศึกษาความคาดหวังของคนพิการต่อองค์กรด้านพิการ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามคนพิการที่ใช้บริการจดทะเบียนคนพิการ จำนวน 120 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพรรณนา เพื่อบรรยายข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง โดยแสดงการคำนวณค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้ค่าเฉลี่ยในการประเมินปัญหาและความต้องการผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 51 ขึ้นไป สถานภาพโสด มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร การศึกษาส่วนใหญ่จบระดับประถมศึกษา สมาชิกในครอบครัว 1-3 คน ไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้ตั้งแต่ 5,001-10,000 บาท มีความพิการทางกาย การเคลื่อนไหวร้อยละ 41.7 พิการตั้งแต่กำเนิด ร้อยละ 52.5 พิการภายหลังจากอาการป่วย ร้อยละ 24.2 ระยะเวลาความพิการตั้งแต่ 1-10 ปี ร้อยละ 45.0คนพิการที่มาติดต่อจดทะเบียนคนพิการส่วนใหญ่มีปัญหามากที่สุดในเรื่องเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ แก่คนพิการ (ค่าเฉลี่ย 4.48) มีความต้องการมากที่สุดในเรื่องต้องการได้รับบริการทางการศึกษาตามสภาพความสามารถ และความเหมาะสมกับสภาพความพิการ (ค่าเฉลี่ย 4.76) มีความคาดหวังต่อองค์กรด้านคนพิการมากที่สุดในเรื่ององค์กรคนพิการ ในการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส่ ไม่มีการทุจริต คอรัปชั่นภายในองค์กร (ค่าเฉลี่ย 4.65)ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้ในระดับนโยบาย คือ รัฐควรมีมาตรการส่งเสริมให้กับคนพิการ ได้รับการศึกษาเพิ่มมากขึ้นในทุกระดับ ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปในสังคม โดยไม่ถูกกีดกันหรือเป็นที่รังเกียจ และควรรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถานประกอบการ ตระหนักถึงความสำคัญในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการที่มาใช้บริการ ข้อเสนอแนะระดับปฏิบัติ สำนักส่งเสริมและพิทักษ์คนพิการ ควรเพิ่มเครื่องออกบัตรคนพิการให้ครบทุกศูนย์ เพื่อความสะดวกแก่คนพิการ และควรมีการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยการจัดให้มีหน่วยเคลื่อนที่ของศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนออกไปให้บริการคนพิการในพื้นที่ ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนควรมีการประชาสัมพันธ์งานด้านสวัสดิการให้กว้างขวาง และหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เข้าถึงคนพิการได้อย่างทั่วถึง องค์คนพิการควรมีการทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนพิการได้มีโอกาสในการทำงาน เพื่อให้คนพิการสามารถพึ่งตนเองได้ในระยะยาว และองค์คนพิการควรผลิตสื่อ ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานขององค์กรคนพิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนพิการมีความรู้ความเข้าใจ และให้การยอมรับ คนพิการควรมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการดำเนินงานด้านสวัสดิการที่คนพิการควรได้รับ