Abstract:
การค้าระหว่างประเทศถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน กล่าวคือ ถ้ามีการส่งออกสูง ย่อมหมายถึง การได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อดุลการชำระเงินของประเทศ แต่ถ้าไม่มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ก็จะไม่สามารถทำให้ประเทศนั้นมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่อ่งจากขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเหตุผลการเกิดขึ้นของการค้าระหว่างประเทศ มีทฤษฎีที่เกี่ยวข้องที่ชี้ให้เห็นว่า เหตุใดจึงต้องมีการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน และเมื่อซื้อขายกันแล้วราคาและปริมาณควรจะเป็นเท่าใด คือ 1. ทฤษฎีการได้เปรียบโดยเด็ดขาด (Absolute Advantage) มี แนวคิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างได้เปรียบในการผลิตสินค้าคนละชนิดกัน แล้วนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกัน2. ทฤษฎีการได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (Comparative Advantage) มีแนวคิดที่สำคัญในด้านโครงสร้างต้นทุนสินค้าที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาสินค้าแตกต่างกันโดยแต่ละประเทศจะเลือกผลิตสินค้าที่มีต้นทุนที่ต่ำสุดแล้วจึงส่งออก3. ทฤษฎีต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) มีแนวคิดในเรื่องของราคาสัมพัทธ์ คือ การย้ายปัจจัยการผลิตที่มีความสามารถในการผลิตสินค้าต่างกันทำให้มีต้นทุนค่าเสียโอกาสเพิ่มขึ้น 4. ทฤษฎีวัฏจักรสินค้า (The Product Life Cycle) ทฤษฎีนี้ไม่ได้นำปัจจัยการผลิตมาพิจารณา แต่ใช้วิทยาการใหม่ เป็นตัวกำหนดทิศทางการค้า ประเทศใดที่มีการคิดค้นพบสินค้าตัวใหม่ ประเทศนั้นจะเป็นผู้ส่งออกก่อนประเทศอื่น 5. แนวคิดเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน โดยอาศัยอำนาจซื้อเปรียบเทียบ (Purchasing Power Parity) จะเป็นตัวแสดงถึงอำนาจในการแข่งขันของการส่งออกได้อย่างหนึ่ง เช่น ถ้าอำนาจซื้อของเงินสกุลแรกลดลง เมื่อเทียบกับอำนาจซื้อของอีกประเทศหนึ่ง การลดลงของอำนาจซื้อดังกล่าว จะเป็นผลสะท้อนให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลนั้นเปลี่ยนไปในทิศทางที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ผู้ประกอบการต้องมีแนวคิดในเรื่องการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายกรณี เช่น ความที่เกิดจากบัญชี ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยการผลิต ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจในการประกอบธุรกิจส่งออก-นำเข้า จะมีธุรกรรมที่สำคัญ คือ 1. การเสนอขายและรับคำสั่งซื้อ 2. การเตรียมสินค้าและเอกสารต่างๆ 3. สิ่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทาง 4. การประกันภัยและเงื่อนไขการซื้อขาย 5. การผ่านพิธีศุลกากร ปัจจุบันใช้ระบบ EDI6. การชำระเงินค่าสินค้าในด้านการชำระเงินค่าสินค้าระหว่างประเทศ นั้น สามารถทำได้หลายวิธี คือ ชำระโดย Open account, Advance payment, Bill for collection, Letter of credit ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบธุรกิจจะใช้ Letter of credit ซึ่งนอกจากจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ในการค้าของทั้งสองฝ่ายแล้ว ชนิดของ Letter of credit ที่ต่างกัน จะนำมาซึ่งการหาแหล่งเงินทุนที่ต่างกันกล่าวโดยสรุป คือ ในการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้เครื่องมือการชำระเงินค่าสินค้าระหว่างประเทศ ประเภท Letter of credit นอกจากจะทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับประโยชน์ โดยเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และได้รับความเชื่อถือ แล้วยังสามารถนำ Letter of credit มาขอสินเชื่อกับทางธนาคารเพื่อใช้เป็นเงิน หมุนเวียนในการขยายธุรกิจได้อีกต่อไป