ทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

Abstract

การศึกษาเรื่อง ทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาว่ารูปแบบการส่งเสริมการตลาดรูปแบบใดที่ลูกค้าให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้บริการของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 2. ศึกษาทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อรูปแบบการส่งเสริมการตลาดในปัจจุบันของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 3. ศึกษาปัญหาในการใช้กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 7 สาขา ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 350 ตัวอย่าง โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็น และแจกแบบสอบถาม โดยใช้ Quota Sampling Technique แล้วนำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม SPSS เพื่อแสดงผลการศึกษาในรูปของร้อยละค่าเฉลี่ย รวมทั้งการทดสอบสมมติฐานในการวิจัย โดยใช้สถิติ Chi-Square ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ซึ่งสามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้ข้อมูลทั่วไปของลูกค้าในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 350 คน เป็นเพศชายร้อ้ยละ 45.1 เพศหญิงร้อยละ 54.9 ส่วนมากมีอายุอยู่ในช่วง 31-35 ปี ร้อยละ 34.3 สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีร้อยละ 57.1 มีอาชีพเป็นพนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน ร้อยละ 51.1 และมีรายได้ต่อเดือนอยู่ในช่วง 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 44.3ทัศนคติต่อกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของธนาคารฯ ลูกค้ากลุ่มตัวอย่างมีทัศนคติเห็นว่า ธนาคารฯ ควรจัดให้มีการส่งเสริมการตลาดในทุกๆ ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.08 สำหรับด้านที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ด้านการให้บริการของพนักงานและด้านที่ลูกค้าให้ความสำคัญน้อยที่สุด คือ ด้านการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆทัศนคติของลูกค้าที่มีต่อการส่งเสริมการตลาดในปัจจุบันของธนาคารฯ พบว่า ลูกค้ามีทัศนคติเห็นว่า การส่งเสริมการตลาดในด้านการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อยู่ในระดับไม่เหมาะสม หรือเป็นปัญหามากที่สุด รองลงมา คือ ในด้านการจัดส่งเสริมการขายและในด้านที่ผู้ตอบแบบสอบถามมีทัศนคติเห็นว่าอยู่ในระดับไม่เหมาะสมหรือเป็นปัญหาน้อยที่สุด คือ การส่งจดหมายหรือเอกสารโดยตรงให้กับลูกค้าปัญหาที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีความคิดว่าเป็นอุปสรรคต่อการใช้บริการมากที่สุด คือ การให้บริการของพนักงานแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้หมายถึงว่า การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่ลูกค้าเสนอเกิดจากจำนวนของพนักงานที่น้อยเกินไป รวมทั้งเครื่องอัตโนมัติต่าง ๆ ก็มีจำนวน้อยไม่เพียงพอต่อการให้บริการอีกด้วยนอกจากนี้ปัญหาในเรื่องรองลงมา ก็คือ การส่งเสริมการขายและการโฆษณาที่ควรทำร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าธนาคารฯ มีการจัดส่งเสริมการขายในเรื่องใดบ้างผ่านการโฆษณาโดยเฉพาะการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์