Abstract:
การประกันสุขภาพ คือ การทำสัญญาระหว่างผู้รับประกัน (Insurer) กับผู้เอาประกันภัย (Insured) โดยผู้รับประกันตกลงจะชดใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้กับผู้เอาประกัน เมื่อผู้เอาประกัน เจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุ ทั้งนี้ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งคือ เบี้ยประกันให้แก่ผู้ รับประกันภัยตามแต่เงื่อนไขที่ตกลงกัน โดยเหตุที่รัฐบาลไม่สามารถสร้างระบบสาธารณสุขให้เกื้อกูลคนได้ ทั่วถึงทั้งประเทศ เพราะมีปัญหางบประมาณจำกัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตประชาชน บางส่วน จึงต้องสร้างหลักประกันให้กับชีวิตของตนด้วยการเคลื่อนตัวเองเข้าสู่ระบบการประกันสุขภาพ (Health Insurance) ด้วยการเลือกซื้อหรือเลือกใช้บริการประกันสุขภาพจากภาคเอกชน เช่น โรง พยาบาล และบริษัทประกันชีวิต สินค้าบริการประกันสุขภาพ จึงได้รับความนิยมมากขึ้น กลุ่มของพนักงานบริษัทเอกชนเป็นประชาชนกลุ่มใหม่ในประเทศที่ยังไม่มีสวัสดิการสุขภาพคุ้ม ครองอย่างเพียงพอเมื่อเทียบกับพนักงานของรัฐบาล แม้ผู้ว่าจ้างเอกชนจะมีการจัดสวัสดิการให้พนักงาน ตามข้อบังคับของกฎหมายแล้วก็ตาม ธุรกิจเอกชนบางแห่งจะทำการจัดสวัสดิการพนักงานของบริษัทเองด้วย การกำหนดกฎเกณฑ์การเบิกค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในระดับมากน้อยแตกต่างกันออกไป บางแห่งก็อาจละเลยไม่จัดสวัสดิการรักษาพยาบาลให้ พนักงานบริษัทเอกชนบางแห่งจึงหันไปเลือกซื้อเลือก ใช้ประกันสุขภาพประเภทอื่น นอกเหนือสวัสดิการที่ได้รับมาเป็นหลักประกันคุ้มครองให้กับชีวิตของตน และ มีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ จากการที่บริการประกันสุขภาพของบริษัทเอกชนได้รับความนิยมจากตลาดมากขึ้นนั้น จึงเป็น เรื่องที่จะทำการศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไปว่า ปัจจัยอันใดบ้างที่น่าจะมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อการเลือกใช้บริการ ประกันสุขภาพของประชาชน ดังนั้นการวิจัยจึงได้มุ่งหมายที่จะศึกษาทัศนคติที่มีต่อการประกันสุขภาพว่ามี (2) ตัวแปรใดบ้างที่จะส่งผลต่อการเลือกใช้เลือกซื้อบริการประกันสนสุขภาพ โดยเน้นกลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงาน บริษัทเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 423 คน ผลการศึกษามีดังต่อไปนี้ พนักงานบริษัทเอกชนมีทัศนคติที่ดีต่อระบบประกันสุขภาพ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ ประโยชน์ของการประกันสุขภาพ แม้ว่าพนักงานส่วนใหญ่จะได้รับบริการการให้ประกันสุขภาพจากบริษัท ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานที่ ตนเองสังกัดอยู่แล้วก็ตาม ก็ยังมีความรู้สึกว่ายังไม่ได้รับการบริการอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังไม่เพียงพอ ต่อสุขภาพทุกด้านของตน จึงมีความคิดที่จะซื้อประกันสุขภาพเพิ่มในอนาคตจากบริษัทประกันชีวิตมากที่สุด รองลงไปคิดจะซื้อจากโรงพยาบาลเอกชน สำหรับกลุ่มพนักงานที่พอใจในสวัสดิการประกันสุขภาพจากสถานที่ทำงานของตนแล้วก็ตาม ก็ยัง ต้องการสวัสดิการด้านนี้เพิ่มอีกในอนาคต (พอใจแต่คิดว่าได้รับความคุ้มครองไม่เพียงพอ) โดยรวมพนักงานบริษัทเอกชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 ประสงค์ที่จะซื้อบริการประกันสุขภาพเพิ่มในอนาคต โดยจะเลือกซื้อประกันสุขภาพของบริษัทประกันชีวิตมากที่สุด รองลงไปคือจากโรงพยาบาล เอกชน ในส่วนที่เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเลือกใช้ประกันสุขภาพ พบว่า 1. การศึกษายิ่งสูง จะสนใจเลือกประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทประกันชีวิต มากที่สุด ตรงกันข้ามในระดับการศึกษาที่ต่ำกว่า จะเลือกใช้ประกันสังคม และประกันสุขภาพทุกชนิดจาก รัฐบาล 2. ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระดับรายได้ ความพึงพอใจในสวัสดิการที่ได้รับอยู่ ประสบการณ์ความเจ็บ ป่วยล้วนมีผลอย่างสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกใช้ประกันสุขภาพจากบริษัทประกันชีวิต และจากโรงพยาบาลเอกชน