การแก้ไขปัญหาการขาดทุนในธุรกิจเลี้ยงกุ้ง : กรณีศึกษา บริษัท สันต์ฟาร์มกุ้ง จำกัด

Abstract

บริษัท สันต์ฟาร์มกุ้ง จำกัด ในฐานะผู้เลี้ยงกุ้งต้องประสบกับภาวะการขาดทุน จากผลประกอบการและงบการเงินที่ชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันและทำกำไรอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ทำให้สามารถวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของการขาดทุน ได้ดังนี้ คือ การที่ราคาซื้อกุ้งมีความไม่แน่นอน ต้นทุนของบริษัทที่สูงขึ้น และปริมาณกับคุณภาพของผลผลิตที่ตกต่ำ สาเหตุประการแรก คือ เรื่องราคากุ้งที่ไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากความผันผวนของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริการ และปริมาณความต้องการซื้อกับความต้องการขาย (Demand & Supply) ในตลาดซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ สาเหตุประการถัดมา คือ การมีต้นทุนสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่ง นั้นมาจาก 2 ปัจจัย คือ ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน ซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ และปริมาณการใช้วัตถุดิบของบริษัทที่มากกว่าคู่แข่ง สาเหตุประการสุดท้าย คือ ปริมาณและคุณภาพผลผลิตตกต่ำ ได้แก่ ผลผลิต/บ่อขนาด 4 ไร่ ของบริษัทอยู่ในช่วงไม่เกิน 2,000 กก. ขณะที่ของคู่แข่งมีปริมาณผลผลิตที่ได้อยู่ในช่วงประมาณ 3,500-5,000 กก. ส่วนคุณภาพเมื่อเปรียบเทียบแล้วพบว่าบริษัทสันต์ฟาร์มกุ้ง จำกัด ผลิตกุ้งได้ขนาดเล็กกว่า บริษัทจำเป็นต้องกำหนดกลยุทธ์เพื่อการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน คือ การลดต้นทุนที่สามารถลดได้ด้วยวิธีการควบคุมปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ให้ลดลง ได้แก่ ค่าอาหาร น้ำมัน เชื้อเพลิง ค่าแรงงานฯ ซึ่งจะทำให้สามารถลดต้นุทนลงไปได้เฉลี่ย 28% ของต้นทุนทั้งหมด โดยอาศัยอุปกรณ์และเครื่องมือเข้ามาสนับสนุนเป็นหลัก นอกจากนี้ควรแก้ไขด้วยการเพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิต โดยเน้นการใช้หลักวิชาการเข้ามาแก้ไขและพัฒนาเทคนิคในการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถผลิตกุ้งที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีปริมาณผลผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นแผนการในระยะสั้น ส่วนแผนระยะยาว บริษัทสามารถใช้กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาดเดิม ได้แก่ การผลิตกุ้งกระป่องและกุ้งอบแห้งฯ เพื่อการส่งออก เนื่องจากในระยะยาว ราคากุ้งมีแนวโน้มที่จะต่ำลงอย่างมาก บริษัทจึงมีโอกาสที่จะก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตที่มีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบได้ ด้วยศักยภาพของความสามารถของผู้ประกอบการไทย