DSpace Repository

การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการฝึกอบรมวิชาชีพของผู้พิการกับของบุคคลปกติ

Show simple item record

dc.contributor.advisor โชคชัย สุทธาเวศ
dc.contributor.advisor Chokchai Suttawet
dc.contributor.author วิมภเดช พัคค์สุนทร
dc.contributor.author Vimpadaj Paksoonthorn
dc.contributor.other Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Social Work and Social Welfare
dc.date.accessioned 2025-10-07T13:59:32Z
dc.date.available 2025-10-07T13:59:32Z
dc.date.issued 2003
dc.identifier.uri https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/4617
dc.description สารนิพนธ์ (สส.ม.) (การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2546 en
dc.description.abstract การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ ซึ่งเรียกว่าผลสัมฤทธิ์ โดยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่ม ในด้านความสมบูรณ์ของร่างกาย คือ บุคคลผู้มีความพิการ เปรียบเทียบกับบุคลลที่มีสภาพร่างกายปกติ โดยใช้การทดลองแยกเป็นสองกลุ่ม มีการควบคุมสภาพแวดล้อมและเนื้อหาโดยการใช้การฝึกอบรม ให้การเรียนรู้ ที่กระทำต่อกลุ่มตัวอย่างซึ่งคำนึงถึงความเท่าเทียมกัน ซึ่งการทดลองนี้คำนึงถึงสภาพภูมิหลังและความรู้พื้นฐน ที่แตกต่างกันของกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้หลักสูตรการฝึกอบรม “ช่างประกอบ และซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์” เป็นตัวแบบ การอบรมจะใช้การบรรยายประกอบการปฏิบัติจริงในเชิงอุปมาอุปมัยและทำการทดสอบผลด้วยแบบทดสอบ แล้วนำผลมาเปรียบเทียบกันของทั้งสองกลุ่ม แนวคำถามของแบบทดสอบจะมุ่งเน้นในประเด็น ความสามารถในการเข้าปัญหา หรือสถานการณ์จำลองที่กำหนดขึ้น เพื่อการแก้ไขหรือทำการพิสูจน์ทราบอันเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยปัญหาที่จะเกิดขึ้นจริงในการประกอบวิชาชีพนี้ อีกทั้งในการทำแบบทดสอบยังคงคำนึงถึงความเท่าเทียมกัน ในการเข้าถึงคำถามและคำตอบของแบบทดสอบ โดยการใช้วิธีการอ่านคำถามและอธิบายในวัตถุประสงค์ของคำถามนั้น ๆ จนผู้ทำแบบทดสอบเข้าใจ และในการตอบแบบทดสอบ โดยส่วนมากคำตอบจะเป็นการเลือกตอบในหัวข้อที่กำหนดหรือถ้าไม่สามารถทำได้ เมื่อต้องใช้การเขียนบรรยายจะมุ่งเน้นในใจความของคำตอบเป็นหลัก ผลการศึกษาปรากฎดังนี้ กลุ่มตัวอย่างผู้พิการสามารถทำแบบทดสอบในภาพรวมได้สูงกว่า กลุ่มตัวอย่างของผู้มีสภาพร่างกายปกติ 67.7 ต่อ 64.9 ตามลำดับ หรือ คิดเป็นร้อยละ 3.11 ของความแตกต่าง เมื่อคำนึงถึงเฉพาะคำถามในเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปและความสามารถในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างผู้พิการสามารถทำแบบทดสอบได้สูงกว่า กลุ่มตัวอย่างของผู้มีสภาพร่างกายปกติ 58.4 ต่อ 55.3 ตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 73.92 ของคะแนนเต็ม และ 31.1 ต่อ 30.6 ในเรื่องความสามารถในการซ่อมหรือเข้าถึงปัญหา 32.5 ต่อ 31.8 ในเรื่องการวิเคราะห์ปัญหาอาการต้นเหตุ ของคะแนนเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่างคนพิการ ต่อกลุ่มบุคคลปกติ ตามลำดับ และเมื่อคิดเป็นร้อยละของคะแนนเต็มในเรื่องนั้น ๆ คือ 74.04 และ 79.26 ตามลำดับ จากผลของงานวิจัยชิ้นนี้จะเห็นได้ว่าผู้พิการมีความพร้อมที่จะพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความรู้ความสามารถได้ และอาจะพัฒนาความรู้ความสามารถได้ดีหรือดีกว่าคนธรรมดาหรือคนปกติเสียอีก อันเนื่องจากความมีกำลังใจในการที่จะต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งเขาเหล่านี้ได้กระทำมาแล้ว เมื่อพบกับความพิการ และเมื่อสังคมมีการเปิดโอกาส และไม่ปิดกั้นที่จะให้เขาเหล่านั้นได้ใช้ความสามารถในส่วนที่เขายังคงมีอยู่ได้อย่างเต็มที่ en
dc.language.iso th en
dc.publisher มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ en
dc.rights มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ en
dc.subject คนพิการ – การจ้างงาน en
dc.subject People with disabilities – Employment en
dc.subject คนพิการ – บริการที่ได้รับ en
dc.subject People with disabilities -- Services for en
dc.subject คนพิการ – การแนะแนวอาชีพ en
dc.subject People with disabilities -- Vocational guidance en
dc.subject ความต้องการ (จิตวิทยา) en
dc.subject Need (Psychology) en
dc.subject บริการสังคม en
dc.subject Social service en
dc.subject การรับรู้ en
dc.subject Perception en
dc.title การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการฝึกอบรมวิชาชีพของผู้พิการกับของบุคคลปกติ en
dc.title.alternative A Comparative Study of Occupational Training Achievement for the Disabled and Nondisabled en
dc.type Independent Studies en
dc.degree.name สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต en
dc.degree.level ปริญญาโท en
dc.degree.discipline การจัดการโครงการสวัสดิการสังคม en


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account