Abstract:
ปัจจุบันเป็นยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเจริญเติบโตในการแพทย์และสาธารณสุข มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบและดูแลสุขภาพ เช่น การนำแพลตฟอร์มดิจิทัลเช้ามาช่วยจัดระบบข้อมูล การวินิจฉัยโรค และพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย อย่างไรก็ดี การใชอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาจเป็นเหตุให้เกิด computer vision syndrome (CVS) มีอาการเวียนศีรษะ ตาลาย ตาแห้ง และการมองเห็นไม่มั่นคง นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดความไม่สบายในการมองเห็นและมีอาการปวดศีรษะได้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบอาการ CVS ในกลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์และหน่วยงานสนับสนุนของโรงพยาบาลตรัง ผ่านแบบสอบถามเกี่ยวกับกลุ่มอาการทางตาจากจอภาพคอมพิวเตอร์ (CVS) จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา รวมถึงทดสอบความแตกต่างและเปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างกลุ่มทดสอบความแตกต่างระหว่างกลุ่ม ด้วย Mann-Whitney U test และเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรระหว่างกลุ่มโดยใช้ Chi-square test โดยการศึกษาแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือ ส่วนที่หนึ่งเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของเจ้าหน้าที่ และส่วนที่สองเกี่ยวกับอาการ CVS ผลการศึกษาพบว่า มีผู้เข้าร่วมการศึกษา 139 คน แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์ (85 คน) และกลุ่มหน่วยงานสนับสนุน (54 คน) พบว่า ไม่มีความแตกต่างของข้อมูลพื้นฐานทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสนับสนุนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ทำงานประจำที่มีระดับอาการ CVS สูงกว่ากลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์ โดยอาการที่พบมากที่สุด คือ อาการปวดตา แสบตา และปวดศีรษะ การศึกษานี้พบว่า อาการ CVS ในกลุ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกี่ยวข้องกับจำนวนชั่วโมงของการใช้คอมพิวเตอร์ ผลวิจัยนี้สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนานโยบายและมาตรการป้องกัน รวมถึงศึกษาพัฒนาแนวทางการบริหารทางกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูอาการ CVS ในกลุ่มเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในอนาคตได้