หลักการและวัตถุประสงค์: โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเสี่ยงและปัจจัยที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่มีประวัติโรคหัวใจและหลอดเลือดที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตสุขภาพที่ 6
วิธีการศึกษา: การศึกษาเป็นแบบเชิงพรรณนา เก็บข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียนของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 383 ราย ที่มารับบริการต่อเนื่องในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยรวบรวมข้อมูลจากการตรวจสุขภาพประจำปีและประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด้วย Thai CV Risk Score
ผลการศึกษา: พบว่าร้อยละ 44.91 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในระดับสูงขึ้นไป โดยเพศชายมีความเสี่ยงสูงกว่าเพศหญิง (54.5%, OR=1.81, 95%CI=1.19-2.77, p=0.004) และผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูงกว่า ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี (63.5%, OR=20.56, 95%CI=10.27-41.15, p<0.001) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ การสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง และระดับไขมัน HDL-C ต่ำ
สรุป: ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การวางแผนเพื่อดูแลผู้ป่วยระยะยาวในการป้องกันเสี่ยงที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
Background and Objectives: Type 2 diabetes is a chronic non-communicable disease that increases the risk of cardiovascular diseases. This study aimed to investigate the risk level and factors associated with the risk of cardiovascular diseases in type 2 diabetic patients without a history of cardiovascular diseases, who are receiving treatment at sub-district health promotion hospital, health region 6.Methods: This descriptive study collected retrospective data from medical records of 383 type 2 diabetic patients who regularly attended health promotion hospitals. Health data from annual health check-ups were gathered and cardiovascular disease risk was assessed using the Thai CV Risk Score. Results: The study found that 44.91% of type 2 diabetic patients were at high risk for cardiovascular diseases. Males were at higher risk than females (54.5%, OR=1.81, 95%CI=1.19-2.77, p=0.004), and individuals aged 60 years and above were at a higher risk than those under 60 years (63.5%, OR=20.56, 95%CI=10.27-41.15, p<0.001). Factors significantly associated with cardiovascular risk levels included smoking, hypertension, and low HDL-C levels. Conclusion: Patients with type 2 diabetes are at risk of developing cardiovascular diseases. Therefore, long-term care planning to prevent related risk factors is of most importance.
