The objective of this study was to examine students‟ ability in English word recognition and pronunciation before and after using phonics. The participants in this study were 37 seventh grade in Chonburi "Sukhabot" School. The researcher focused on 5 English vowel sounds; /æ/, /e/, /i/, /ɒ/ and /ʌ/. The instruments used in this study were a pre-test and a post-test of word recognition and pronunciation and the questionnaire. The data obtained from English word recognition pre-test and post-test were statistically analyzed by using means and standard deviation. The results of the study revealed that (1) students‟ word recognition and pronunciation skills improved substantially when being taught using the phonics method. The mean score of students‟ word recognition in the pre-test was 7.41 and the post-test was 10.05. The mean score of students‟ pronunciation in the pre-test was 3.24 and the post-test was 11.49. (2) after using phonics, opinions of students‟ on learning English word recognition and pronunciation changed to positive direction. The mean score of the opinions after learning through phonics was 4.27. The students also showed a high level of opinions toward learning through phonics. After the students had responded to a questionnaire, most of the students chose "I want to learn through phonics to enhance my pronunciation in the future." These results confirmed that phonics could be a promising tool for teachers to improve students‟ word recognition and pronunciation abilities.
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการรับรู้คำและการออกเสียงภาษาอังกฤษก่อนและหลังการสอนโฟนิกส์ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชลบุรี "สุขบท" จังหวัดชลบุรี จำนวน 37 คน ผู้วิจัยศึกษาสระ 5 หน่วยเสียงในภาษาอังกฤษ คือ /æ/, /e/, /i/, /ɒ/ and /ʌ/ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วยบทเรียนด้วยวิธีโฟนิกส์ แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่าร้อยละ (Percentage) ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการสอนโฟนิกส์ช่วยให้นักเรียนมีการรับรู้คำและการออกเสียงดีขึ้น การรับรู้คำศัพท์ก่อนการเรียนการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์มีค่าเฉลี่ย 7.41 และหลังการเรียนการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์มีค่าเฉลี่ย 10.05 การออกเสียงก่อนการเรียนการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์มีค่าเฉลี่ย 3.24 และหลังการเรียนการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์มีค่าเฉลี่ย 11.49 (2) ในการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนในการรับรู้คำและการออกเสียงภาษาอังกฤษจากการเรียนการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์ พบว่าค่าเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ 4.27 แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนเห็นด้วยมากกับการสอนด้วยวิธีโฟนิกส์ ข้อที่เห็นด้วยมากที่สุด คือ ฉันต้องการเรียนโฟนิกโดยใช้การออกเสียงในอนาคต มีค่าเฉลี่ย 4.57 สรุปผลการศึกษาครั้งนี้ คือ ครูสามารถนำวิธีการสอนแบบโฟนิกส์มาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถของนักเรียนในการรับรู้คำและอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ