Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1030
Title: การสำรวจความต้องการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลของผู้บริหารของโรงงานที่ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี
Other Titles: A Study of Managers' Personal Training Needs in Industries Located in Amphur Bangplee
Authors: เพ็ญ ชยาวิวัฒน์กุล
นิตยา ลิ้มไพศาล
นุช สัทธาฉัตรมงคล
เพ็ญศิริ สุธรรมโน
สถาพร ปิ่นเจริญ
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. คณะบริหารธุรกิจ
Keywords: โรงงาน -- ไทย -- สมุทรปราการ
Factories -- Thailand -- Samut Prakarn
การฝึกอบรม
Training
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
Human resources development
Issue Date: 1997
Publisher: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติต่อการฝึกอบรม หัวข้อ/หลักสูตรและวิธีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่เป็นความต้องการของผู้บริหาร หัวข้อ/หลักสูตรที่เป็นความต้องการจะเข้ารับการฝึกอบรมจำแนกตามกลุ่มบุคคลที่จะเข้ารับการฝึกอบรม และปัจจัยจูงใจต่อความต้องการฝึกอบรมนอกสถานที่ของผู้บริหาร กลุ่มตัวอย่างได้จากผู้บริหารของโรงงานที่ประกอบกิจการทั้งหมด 11 ประเภท ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่และขนาดกลางมีจำนวนโรงงาน 79 โรงงาน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม มีแบบสอบถาม ที่ใช้ในการวิจัยทั้งสิ้นจำนวน 154 ชุด การวิเคราะห์ข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1. ทัศนคติของผู้บริหารต่อการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลอยู่ในระดับดี อันดับสูงสุดคือ พนักงานทุกคนของบริษัทจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนทัศนคติที่อยู่ในระดับปานกลาง อับดับสูงสุดคือ บริษัทมีวิธีการคัดเลือกบุคคลให้เข้ารับทุนศึกษาต่อหรือฝึกอบรมอย่างเป็นระบบและยุติธรรม และเมื่อทำการวิเคราะห์ทัศนคติต่อการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลของผู้บริหาร จะเห็นได้ว่าตัวผู้บริหารมีทัศนคติระดับดีต่อการฝึกอบรมภายในและภายนอกหน่วยงาน สำหรับบริษัทเมื่อได้พิจารณาแล้วก็เช่นเดียวกัน คือ ผู้บริหารมีทัศนคติระดับดีในด้านนโยบายของบริษัท การให้ความสำคัญของบริษัท และงบประมาณสนับสนุน 2. หัวข้อ/หลักสูตรเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่จะทำการฝึกอบรมตามความต้องการของผู้บริหารที่มีความเหมาะสมระดับดี ลำดับที่ 1 คือ การลดต้นทุนการผลิตเพื่อสร้างผลกำไร ลำดับที่ 2 คือ เทคนิคการเจรจาต่อรอง และลำดับที่ 3 การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพในอุตสาหกรรม ส่วนหัวข้อ/หลักสูตรเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่จะทำการฝึกอบรมตามความต้องการของผู้บริหารที่มีความเหมาะสมระดับปานกลาง ลำดับที่ 1 คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และการปรับตัวของภาคธุรกิจให้ทันต่อกระแสโลกาภิวัตน์ ลำดับที่ 2 คือ เกมส์การจัดการทางธุรกิจ และลำดับที่ 3 คือ การบริหารความเสี่ยงภายใต้อัตราแลกเปลี่ยน 3. วิธีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านความรู้ที่มีความเหมาะสมระดับปานกลาง อันดับสูงสุดคือ การบรรยาย การระดมความคิด และอันดับสุดท้ายคือ การประชุมอภิปราย ส่วนวิธีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านความเข้าใจที่มีความเหมาะสมระดับดีคือ การระดมคิด และที่มีความเหมาะสมระดับปานกลาง อันดับสูงสุดคือ การทำแบบฝึกหัด และอันดับสุดท้ายคือ กลุ่มสัมพันธ์ สำหรับวิธีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านทัศนคติที่มีความเหมาะสมระดับปานกลาง อันดับสูงสุดคือ การระดมความคิด และอันดับสุดท้ายคือ การสาธิต นอกจากนี้วิธีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านทักษะที่มีความเหมาะสมระดับดีคือ การสาธิต และการทำแบบฝึกหัด ส่วนที่มีความเหมาะสมระดับปานกลาง อันดับสูงสุดคือ การศึกษาเฉพาะกรณี และอันดับสุดท้ายคือ การประชุมอภิปราย 4. หัวข้อ/หลักสูตรที่เป็นความต้องการจะเข้ารับการฝึกอบรมจำแนกตามกลุ่มบุคคลที่จะเข้ารับการฝึกอบรมนั้น ผู้บริหารต้องการจะเข้ารับการฝึกอบรมในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารงานเพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการทำงาน สำหรับพนักงานที่อยู่ในบังคับบัญชาของผู้บริหารจะเข้ารับการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานเอง 5. ปัจจัยจูงใจต่อความต้องการฝึกอบรมนอกสถานที่ของผู้บริหารของโรงงานที่ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี ซึ่งเป็นจริงในระดับสูงสุดคือ ความรับผิดชอบ รองลงมา ได้แก่ งานที่ทำ ความสำเร็จ และความก้าวหน้า สำหรับปัจจัยที่เป็นจริงในระดับน้อยที่สุดคือ การได้รับการยอมรับ 6. ความคิดเห็นของผู้บริหารของโรงงานที่ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลีเกี่ยวกับการฝึกอบรมนอกสถานที่ที่มีจำนวนสูงสุดคือ บริษัทที่ทำงานไม่มีหน่วยงานด้านการฝึกอบรม และถ้าหากมีจะอยู่ในระดับมาตรฐาน ผู้บริหารเคยเข้ารับการฝึกอบรม และมีจำนวนมากกว่า 5 ครั้ง ในกรณีที่บริษัทไม่ส่งเข้ารับการฝึกอบรม ผู้บริหารยินดีออกค่าลงทะเบียนในเรื่องที่สนใจเอง เป็นจำนวนเงิน 1,001-2,000 บาท ระยะเวลาที่เหมาะสมในการฝึกอบรมคือ 1-2 วัน และวันเสาร์เป็นวันที่เหมาะสมมากที่สุด วิทยากรได้แก่ นักธุรกิจ และนักวิชาการ สำหรับสถานที่ที่ทำการฝึกอบรมจะใช้ โรงแรม และรูปแบบการฝึกอบรมคือ รวมกันหลายบริษัท
The objective of this research was to study the need for training to develop human resource quality in industries located in Amphur Bangplee. The study showed the attitudes towards training interest in various topic/curriculum, ways at conducting training and factors which influence any training. The Sampling from 11 types of industries, a total of 79 factories were groupted according to large-size and medium-size. One hundred and fifty-four questionnaires were sent randomly. SPSS was used to analyze the data. The statistical instrument used in the research were frequencies, ratios, means, and standard deviations. The results showed : 1. Managers believe that all staff should be trained in order to work independently and efficiently, and that their companies have a systematic and fair process in selecting their personnels to be granted funds for training. Managers have a good attitudes towards the in-house training and outside training programs. Companies also have policies of providing funds for training. 2. The most important and appropriate topic/curriculum for training is “Reducing Production Cost for Building Profit”. The second most popular topic/curriculum was “Negotiations”. The third topic was “Increasing Products and Quality”. Topic/curriculum, of lesser important, were “VAT”, “Developing for Change in The Global Business World”, “Simulation Games”, and “Managing Risk under Volatile Change in Foreign Exchanges”. 3. The appropriate ways to conduct the trainings were lectures, brainstorming and seminars. The most suitable ways to maximize understanding were brainstorming, doing exercises, and demonstrations. The most effective ways to build attitudes were brainstorming and demonstrations. The appropriate tactics to improve skills were workshop, doing exercises, case studies and seminars. 4. Managers preferred topics about the management skills, where as other staff preferred topics which would increase their efficiency according to their management levels. 5. Factors influencing outside training programs of the industries located in Amphur Bangplee were responsibility, and job-related success progress. The factor which found no significant was job acceptance. 6. Attitudes towards outside training programs were the following : Managers think their companies do not have training departments but if they do, those departments would offer standard training. Management was willing to pay all fees to attend courses, of interested, at the rate ranges from 1,001 to 2,000 Baht. The most desirable duration for outside training program was 1-2 days, preferably or Saturday. The instructors should be successful businessmen or lectures. The prefered venue was hotel, and the training should be conducted among several companies.
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1030
Appears in Collections:Business Administration - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Abstract.pdf376.46 kBAdobe PDFView/Open
Tableofcontent.pdf140.6 kBAdobe PDFView/Open
Chapter1.pdf234.61 kBAdobe PDFView/Open
Chapter2.pdf888.29 kBAdobe PDFView/Open
Chapter3.pdf584.77 kBAdobe PDFView/Open
Chapter4.pdf1.91 MBAdobe PDFView/Open
Chapter5.pdf874.7 kBAdobe PDFView/Open
Reference.pdf1.77 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.