ภาวะผู้นำของพนักงานระดับจัดการ: กรณีศึกษา: บริษัท เรียลโซลูพลัส จำกัด

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะผู้นำทั้งก่อน และหลังการสัมมนาของพนักงานระดับจัดการของ บริษัท เรียลโซลูพลัส จำกัด พร้อมทั้งนำเสนอภาวะผู้นำที่เหมาะสมกับองค์กร การวิจัยครั้งนี้จึงได้ใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่าผู้นำสูงสุดใส่ใจทุกรายละเอียด มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีนโยบายในการสร้างความเชื่อมั่น และแรงจูงใจให้พนักงาน อย่างไรก็ตาม ผู้นำบางคนยังทำงานไม่สัมพันธ์กับแผนที่วางไว้ แต่จะบริหารงานตามความต้องการของตนเองเป็นหลัก นอกจากนี้ยังไม่ได้จัดลำดับความสำคัญของงานมากนักและไม่เน้นการกระจายงาน อีกทั้งยังบริหารโดยใช้กฎระเบียบเป็นหลัก ไม่เน้นการชมเชยให้กำลังใจ ไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน รวมถึงระดับหัวหน้าด้วยกันเอง แต่ละคนจะยึดความคิดของตนเองเป็นหลัก ส่งผลให้การทำงานไม่เป็นระบบจนเป็นจุดอ่อนขององค์กร กระนั้นก็ตาม หลังการสัมมนา ผู้นำในองค์กรมีการเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นมากขึ้นผู้นำมีการจัดลำดับความสำคัญของงาน รวมถึงการกระจายงาน และมีความเข้าใจในความแตกต่างระหว่างบุคคล และให้ความสำคัญกับความรู้สึกของพนักงานมากขึ้น บรรยากาศในการทำงานจึงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะผู้นำที่เหมาะสมในองค์กร

The objectives of this research are to study leadership of managements of Real Soluplus Co., Ltd. before and after a seminar as well as to propose appropriate leadership for an organization. This research was a qualitative research and interview was used for data compilation. The findings reveal that the managers focused on each detail, set obvious goals, and had policies on confident making and incentives for employees. Some managers however work irrelevant to the plans and do as what they wanted to do. In addition, they did not put priority of jobs and not distribute jobs. They mainly focused on rules and not give important to incentives. They were not often receiving comments from employees and other managers. They persist in their opinions causing complicated work and eventually became one of weak points of the organization. The results after seminar obviously showed that the managers opened more opportunities for their employees to share their opinions. They put priority of jobs and distribute work. They better understood the difference between persons and focused on feelings of employees. The working environment therefore improved positively and led to appropriate leadership in an organization.