Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1644
Title: ฤทธิ์แอนติออกซิแดนซ์และต้านมะเร็งของสารสกัดหยาบจากมะรุม (Moringa oleifera Lam) ของไทยในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวเพาะเลี้ยงต้นแบบชนิด K562
Other Titles: Antioxidant and Anti-Cancer Properties of Thai Horse Radish Tree (Moringa oleifera Lam) Extract on K562 Cell Line
Authors: สุวรรณา เสมศรี
ทรงยศ อนุชปรีดา
วิชาญ จันทร์วิทยานุชิต
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. คณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. คณะเภสัชศาสตร์
Keywords: มะเร็งเม็ดเลือดขาว
Leukemia
มะรุม
Moringa oleifera
ความเป็นพิษต่อเซลล์
Cell-mediated cytotoxicity
Issue Date: 2014
Publisher: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
Abstract: ปัจจุบันการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวมุ่งสู่ทางเลือกใหม่โดยใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติได้ถูกศึกษาและพยายามที่จะรวบรวมความรู้ใหม่เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นที่น่าสนใจว่าการศึกษาที่ผ่านมาพบว่ามะรุมมีฤทธิ์ป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งโดยการเสริมสร้างสถานะของสารต้านอนุมูลอิสระและระดับของอาร์โอเอส อย่างไรก็ตามความเป็นพิษของสารสกัดจากมะรุมกับเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวยังไม่เคยรายงาน วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ คือ การศึกษาฤทธิ์สารต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งของมะรุมไทยในเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวต้นแบบชนิด K562 ความเป็นพิษของสารสกัดหยาบมะรุมถูกวัดโดยวิธีเอ็มทีที สารต้านอนุมูลอิสระถูกตรวจโดยวิธีดีพีพีเอช นอกจากนี้ยังตรวจระดับโปรตีนวิล์มทูเมอร์วันโดยวิธีเวสเทิร์นบลอท ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์ทางสถิติโดย One-way ANOVA จากโปรแกรม SPSS จากผลการทดลองพบว่าสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบมีความเป็นพิษกับเซลล์ K562 โดยมีระดับความเข้มข้นที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ได้ร้อยละ 50 (IC50) คือ 220 +- 22 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และความเข้มข้นที่ไม่เป็นพิษ (IC20) คือ 55 +-5 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และยังพบว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงโดยวิธีดีพีพีเอช นอกจากนี้ผลการทดลองยังแสดงให้เห็นระดับของโปรตีนวิล์มทูเมอร์วัน หลังจากเลี้ยงเซลล์ร่วมกับสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบในช่วงเวลาต่างๆ (24, 48 และ 72 ชั่วโมง) ลดลงร้อยละ 21,37 และ 61 ตามลำดับ ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร) สามารถลดระดับโปรตีนวิล์มทูเมอร์วันได้ร้อยละ 32, 48 และ 68 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบที่ระดับความเข้มข้น IC20 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่มีผลกระทบต่อลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเซลล์ และที่สำคัญสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบไม่กระทบกับเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติ (PMBC) ฉะนั้นสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์และการแสดงออกของโปรตีนวิล์มทูเมอร์วัน ตามระยะเวลาและความเข้มข้นที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงสามารถสรุปได้ว่าสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบน่าจะเกี่ยวข้องกับการคุมการแสดงออกที่ลดลงของโปรตีนวิล์มทูเมอร์วันในเซลล์ K562 ระดับการแปลรหัส จากผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดหยาบมะรุมส่วนใบมีแนวโน้มที่จะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและควรจะศึกษาต่อไปในอนาคต
Currently, alternative leukemic treatments with natural products are being studied in an attempt to gather new information in the treatment of leukemia. Interestingly, previous studies have shown that Maringa oleifera mediates its chemopreventive effects by enhancing antioxidant status and quencing of ROS. However, the cytotoxicity of Moringo oleifera extract has never reported with leukemic cell lines. The purpose of this study was to study antioxidant and anti-cancer properties of Thai Horse radish tree (Moringa oleifera Lam) extract on K562 cell model. The cytotoxicity of crude Moringo oleifera extract was determined by MTT assay. The antioxidant was detected by DPPH assay. Moreover, the WT1 protein levels were exmined by Western blot analysis. All data were analyzed the statistically significant by one-way ANOVA from SPSS software. The result demonstrated that the crude Moringo oleifera leaves extract exhibited distinctly cytotoxic effect on K562 cells with the inhibitory concentration at 50% (IC50) valve of 220 +- 22 µg/ml and non-cytotoxic concentration (IC20)valva of 55 +-5 µg/ml. It also showed high antioxidant activity detected by DPPH assay. Moreover, the result showed that WT1 protein levels after crude Moringa oleifera leaves extract treatments in various time periods (24,48 and 72 hours) were decreased by 21,37, and 61% respectively. In addition, at 48 hours of incubation with various concentrations (45,55, and 65 µg/ml) could reduce WT1 protein levels by 32. 48, and 68% respectively. However, the crude Moringa oleifera leaves extract at IC20 doose clearly showed that it did not effect on cell morphology. Importantly, the crude Moringa oleifera leaves extract did not affect with PMBC. Conclusion, the crude Moringa oleifera leaves extract could inhibit cell proliferation and WT1 protein expression in a dose and time dependent manners. Therefore, it can be concluded that the crude Moringa oleifera leaves extract involved in down-regulation of translational process of WT1 protein expression in K562 cells. These results indicated that the Moringa oleifera leaves extract is a promising plant as an alternative choice for leukemia treatment and should be further investigated in the future.
URI: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/1644
Appears in Collections:Medical Technology - Research Reports

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Suwanna-Semsri.pdf26.8 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.