Please use this identifier to cite or link to this item: https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2068
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอภิชัย สายสดุดี-
dc.contributor.advisorApichai Saisadudee-
dc.contributor.authorจันทนา ลิ้มสุขเสกสรรค์-
dc.contributor.authorJantana Limsukseksun-
dc.contributor.otherHuachiew Chalermprakiet University. Faculty of Business Administration-
dc.date.accessioned2024-04-27T13:02:57Z-
dc.date.available2024-04-27T13:02:57Z-
dc.date.issued2006-
dc.identifier.urihttps://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2068-
dc.descriptionภาคนิพนธ์ (บธ.ม.) (บริหารธุรกิจ) -- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 2549th
dc.description.abstractการศึกษาเรื่อง การปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ประเภท Cream บำรุงผิว (Nourishing Cream) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสาเหตุของปัญหาที่มีผลต่อค่าประสิทธิผลโดยรวมของกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์ประเภท Cream พร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไขและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตโดยวิธีการเปรียบเทียบกับค่า Benchmarking ของข้อมูลย้อนหลัง 2 ปี โดยใช้เครื่องมือทดสอบความสัมพันธ์ที่เรียกว่า การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Analysis) และใช้เครื่องมือ TPM (การบำรุงรักษาทวีผลแบบทุกคนมีส่วนร่วม) ในเสาหลักที่มีชื่อว่า การปรับปรุงเฉพาะเรื่อง (Individual Improvement) ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นตอนดังนี้ คือ การวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง การเก็บข้อมูลขณะทำการศึกษา/แก้ไข เพื่อหาสาเหตุของปัญหา และสุดท้ายการวิเคราะห์ข้อมูลหลังทำการศึกษา พร้อมเปรียบเทียบผลที่ได้ก่อนและหลังทำการศึกษาโดยใช้เครื่องมือควบคุมคุณภาพช่วยในการศึกษา คือ ใบตรวจสอบ (Check Sheet) การวิเคราะห์พาเรโต (Pareto Analysis) และผังก้างปลา (Fish Bone Diagram) ผลการศึกษา พบว่าปัญหาที่ทำให้ค่า ร้อยละ Service Level ของผลิตภัณฑ์ประเภท Cream มีค่าต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์กลุ่มของ Roll-On และ Body นั้นมาจากปัญหาด้านประสิทธิภาพของการผลิต เนื่องมาจากค่าเฉลี่ยร้อยละประสิทธิผล โดยรวมของเครื่องจักรก่อนทำการศึกษาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 ถึงเดือนกันยายน 2548 นั้นมีค่าเพียง 38.30 แต่เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างร้อยละ Service Level และค่าเฉลี่ยร้อยละ Supplier Performance Evaluation นั้นมีค่าเพียง 0.33 ซึ่งพบว่าไม่มีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งในช่วงเวลาเดียวกันค่าร้อยละเฉลี่ย Supplier Performance Evaluation นั้น ยังมีค่าสูงถึง 96.50 ซี่งสนับสนุนผลจากการวิเคราะห์ว่าปัญหาที่ทำให้ค่าร้อยละ Service Level มีค่าต่ำนั้นมีที่มาจากปัญหาด้านประสิทธิภาพของการผลิต สำหรับการศึกษาในส่วนของปัญหาด้านประสิทธิภาพของการผลิต พบว่า สาเหตุที่ทำให้ค่าร้อยละประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร มีค่าต่ำนั้นมาจากปัญหาตลับคว่ำ/ตัวยาราด และปัญหาฝาลงไม่ทันคิดเป็นร้อยละ 14.01 และ 13.86 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเวลารับภาระงานทั้งหมด โดยหลังจากทำการปรับปรุง/ศึกษา ค่าความสูญเสียลดลงเหลือร้อยละ 6.03 และ 2.45 ตามลำดับเมื่อเทียบกับเวลารับภาะงานทั้งหมด ทำให้ค่าร้อยละประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรมีค่าเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยก่อนปรับปรุงซึ่งอยู่ที่ 38.30 เป็น 67.50 และค่าร้อยละเฉลี่ย Service Level เพิ่มขึ้นจาก 94.86 เป็น 98.06th
dc.language.isothth
dc.publisherมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติth
dc.rightsมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติth
dc.subjectการวางแผนการผลิตth
dc.subjectProduction planning.th
dc.subjectการบำรุงรักษาเชิงทวีผลโดยรวมth
dc.subjectTotal productive maintenance.th
dc.subjectการควบคุมความสูญเปล่าth
dc.subjectLoss controlth
dc.subjectครีมบำรุงผิวth
dc.subjectNourishing creamth
dc.subjectบริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัดth
dc.subjectBeiersdore Company Limitedth
dc.titleการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมบำรุงผิวth
dc.title.alternativeEfficency Improvement of Total Processing for Nourishing Cream Products Group : Case Study of Beiersdore Company Limitedth
dc.typeIndependent Studiesth
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth
dc.degree.levelปริญญาโทth
dc.degree.disciplineบริหารธุรกิจth
Appears in Collections:Business Administration - Independent Studies

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Juntana-Limsooksaksun.pdf
  Restricted Access
18.12 MBAdobe PDFView/Open Request a copy


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.