ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้และทัศนคติต่อหลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสถานศึกษาเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้และทัศนคติต่อหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสถานศึกษาเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สุ่มตัวอย่างจำนวน 255 คน โดยวิธีสุ่มหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลประกอบด้วยแบบวัดการรับรู้และทัศนคติ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93, 0.88 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและไคสแควร์ ผลการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 171 คน อายุเฉลี่ย 17.67 (Min=16, Max=19) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย 3.15 (Min=1.74, Max=3.99) มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากการประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ร้อยละ 42.75 แหล่งข้อมูลที่รับรู้ส่วนใหญ่จากเว็บไซต์และรุ่นพี่ รับรู้จากการประชาสัมพันธ์ของครูแนะแนว ร้อยละ 20.39 นักเรียนส่วนใหญ่มีการรับรู้หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อยู่ในระดับน้อยร้อยละ 49.71 และมีทัศนคติต่อหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อยู่ในระดับทัศนคติปานกลาง ร้อยละ 58.04 การหาความสัมพันธ์พบว่าปัจจัยด้านเพศ โรงเรียนที่กำลังศึกษา บุคคลในครอบครัว ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพ การประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และแนะนำของครูแนะแนวมีความสัมพันธ์กับระดับการรับรู้หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและปลอดภัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value = 0.017, <0.001. <0.001, 0.005, <0.001 ตามลำดับ) โรงเรียนที่กำลังศึกษา ระดับการศึกษาของผู้ปกครองและการประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติมีความสัมพันธ์กับระดับทัศนคติต่อหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (p-value=0.015)

The objectives of this research were to analyze factors associated with perception and attitude towards Bachelor of Science Program in Occupational Health and Safety in Mathayomsuksa six students, Bangplee District, Samutprakan Province. Totally, 255 participants were randomly selected from high-school students in Bangplee District, Samutprakan Province using multi-stage sampling technique. All participants were collected using a structured questionnaire consisting of socio-demographic characteristics, perception and attitude with the reliability of 0.93 and 0.88 respectively. Results showed that 171 participants were female, mean age was 17.67 years (Min=16, Max=19 years), and mean GPA was 3.15 (Min=1.74, Max=3.99). About 42.75% received the information from Huachiew Chalermprakiet University. For other sources of information, 20.39% received the information from guidance counselors. Approximately 49.17% had low level of perception and 58.04% had moderate level of attitude towards Bachelor of Science Program in Occupational Health and Safety. Factors significantly associated with perception level were sex, schools, members of the family, cousin or people who work as safety officer, Huachiew Chalermprakiet University's information and school guidance counselor, p=0.017, <0.001, <0.001, 0.005, and <0.001 respectively. The schools, education of parents and Huachiew Chalermprakiet University's information were significantly assoicated with attitude level, p-value <0.001, 0.041 and 0.028, respectively. Additionally, the perception level was significantly associated with the attitude level of Bachelor of Science Program in Occupational Health and Safety, p-value = 0.015.