Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2304
Title: | ปัจจัยทํานายการปฏิบัติพยาบาลแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน |
Other Titles: | Factors Predicting of Nursing Practice in Family-centered Care of Community Nurse Practitioners |
Authors: | เนาวรัตน์ กระมูลโรจน์ กนกพร นทีธนสมบัติ กมลทิพย์ ขลังธรรมเนียม Naowarut Kramolroj Kanokporn Nateetanasombat Kamonthip Khungtumneum Huachiew Chalermprakiet University. Master of Nursing Science Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing |
Keywords: | การพยาบาลครอบครัว Family nursing พยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน Nurse practitioners สมรรถนะ Performance |
Issue Date: | 2018 |
Citation: | วารสาร มฉก. วิชาการ 21, 42 (มกราคม-มิถุนายน 2561) : 13-26. |
Abstract: | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทํานายการปฏิบัติพยาบาลแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนและได้รับใบอนุญาตขึ้นทะเบียนจากสภาการพยาบาล จํานวน 185 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ประกอบด้วย 4 ส่วน ส่วนที่ 1 ลักษณะส่วนบุคคล อาทิเช่น เพศ อายุ ระดับการศึกษา และประสบการณ์การทํางาน ส่วนที่ 2 เป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ส่วนที่ 3 เป็นการรับรู้บทบาทตามสมรรถนะของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน และส่วนที่ 4 เป็นการปฏิบัติพยาบาลแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ จํานวน 3 ท่าน และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของ ครอนบัค (Cronbach’s alpha coefficient ) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.967 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหเพียร์สัน และวิเคราะห์ปัจจัยทํานายด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 60.50 จบปริญญาโท ร้อยละ 93.00 มีประสบการณ์การทํางานพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนน้อยกว่า 10 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 89.20 ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลประจําอําเภอ ร้อยละ 66.50 กลุ่มตัวอย่างมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (–x = 4.12, SD = 0.26) และมีการรับรู้บทบาทตามสมรรถนะของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (–x = 4.08, SD = 0.29) เช่นกัน ส่วนการวิเคราะห์ปัจจัยทํานายการปฏิบัติพยาบาลแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน โดยพบว่า การรับรู้บทบาทตามสมรรถนะพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน ด้านความสามารถในการพัฒนาจัดการและกํากับระบบการดูแลบุคคล กลุ่มคน ครอบครัว และชุมชน การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคการรักษาโรคเบื้องต้นและการฟื้นฟูสภาพโรค ด้านความสามารถในการประสานงาน ด้านความสามารถในการเสริมสร้างพลังอํานาจ การสอน การฝึกการเป็นพี่เลี้ยงในการปฏิบัติ และ ด้านความสามารถในการจัดการและประเมินผลลัพธ์ สามารถทํานายการปฏิบัติพยาบาลแบบครอบครัว เป็นศูนย์กลางได้ (r=0.521, p<0.01) เท่ากับ ร้อยละ 20.2 สรุปผลจากการศึกษาครั้งนี้ผู้บริหารทางการพยาบาลหรือหัวหน้างานอาจนําปัจจัยทํานาย การปฏิบัติการพยาบาลแบบครอบครัวเป็นศูนย์กลางของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชนที่พบไปวางแผนพัฒนาและปรับปรุงผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของตนเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานของตนเองได้ อย่างเหมาะสม This research aimed to study factor predicting on family centered nursing care of nurse practitioners. The samples were 185 registered nurses, who graduated master of nursing science in community nurse practitioner and registered from Thai Nursing Council. Data collection used the questionnaire, which consisted of four parts. The first part asked for demographic data such as sex, age, level of education, and working experience, whereas the second part asked for work motivation. The third part was about perception on role and the competency of nurse practitioner. Finally, the fourth part was family centered nursing care of nurse practitioner .This questionnaire was validated by three experts, whereas the reliability was 0.967 of the Cronbach’s alpha score. The data were analyzed by percentage, mean, standard deviation, Pearson’s production moment correlation coefficient , and multiple regression. The result showed that approximately sixty percent of the samples were 31 to 40 years old. Ninety-three percent graduated master of nursing science. Their nursing experience in community were less than ten years, which was about 89.2 percent. About sixty-six percent of the participants worked at community hospital & The overall work motivation was high (–x = 4.12, SD = 0.26), and the overall of perception on role and competency of nurse practitioner was high as well (–x =4.08, SD = 0.29). The analysis of factor predicting on family centered nursing care of nurse practitioners revealed that perception on role and competency of nurse practitioner, particularly on aspect of care management, were person, group, family and community, health promotion, health prevention, basic medical care and rehabilitation, aspect of collaboration, aspect of empowering, educating, coaching, mentoring and aspect of outcome management and evaluation could predict on family centered nursing care of nurse practitioners at 20.2 percent (r=0.521, p<0.01). For conclusion of this study, nurse administrators or head nurses might apply the predicting factors on family centered nursing care of nurse practitioners to plan for developing and improving nursing practice at their workplace & in order to promote nurse practitioners’ abilities appropriately. |
Description: | สามารถเข้าถึงบทความฉบับเต็มได้ที่ https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/146718/108146 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2304 |
ISSN: | 0859-9343 (Print) 2651-1398 |
Appears in Collections: | Nursing - Artical Journals |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Nursing-Practice-in-Family-centered-Care.pdf | 89.55 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.