Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2325
Title: | ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ในชุมชนวัด สลุด อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ |
Other Titles: | Factors Related to Fall Prevention Behavior of Patients with Knee Osteoarthritis in Watsalud Community Bang Phli District, Samutprakarn Province |
Authors: | กรวิกรานต์ วิหก ทวีศักดิ์ กสิผล นพนัฐ จำปาเทศ Kronwikran Wihok Taweesak Kasiphol Nopphanath Chumpathat Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Nursing |
Keywords: | ข้อเสื่อม -- ผู้ป่วย Osteoarthritis -- Patients การทรงตัว Equilibrium (Physiology) การหกล้ม Falls (Accidents) ชุมชนวัดสลุด (สมุทรปราการ) Watsalud Community (Samut Prakarn) |
Issue Date: | 2021 |
Citation: | วารสาร มฉก.วิชาการ 25, 1 (ม.ค.-มิ.ย. 2564) : 26-40 |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย (descriptive research) เปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมจำแนกตามเพศ อายุ ประวัติการหกล้มภายในรอบ 1 ปี ดัชนีมวลกาย ความสามารถในการทรงตัว ความมั่นใจในการทรงตัว ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมในชุมชนวัดสลุด อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมจำนวน 280 ราย เครื่องมือประกอบด้วยแบบสอบถามทั้งหมด 5 ส่วน ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ด้วยการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และหาค่าความเชื่อมั่นด้วยการทดสอบหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของคอนบาค (Cronbach’s alpha) ได้เท่ากับ 0.73, 0.80, 0.90, 0.98, 0.94 และ 0.77 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม ความสามารถในการทรงตัว ความมั่นใจในการทรงตัว และพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยสถิติเชิงพรรณนา (descriptive statistics) ได้แก่ ค่าความถี่ มัธยฐาน และควอไทล์ (quartiles) ที่ 1 – 3 เปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มด้วยสถิติ Mann - Withney U และ Kruskal-Wallis test และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยสถิติ Spearman’s rho
ผลการวิจัย พบว่า พฤติกรรมการป้องกันการหกล้มอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 94.29 การเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มจำแนกตามเพศ กลุ่มอายุ และประวัติการหกล้ม พบว่า เพศที่ต่างกัน มีค่ากลางพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (Z=-2.39, p<.05) โดยเพศชายมีพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มมากกว่าเพศหญิง และการเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มจำแนกตามระดับดัชนีมวลกาย ความมั่นใจในการทรงตัว และความสามารถในการทรงตัวของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม พบว่า ระดับความมั่นใจในการทรงตัวที่ต่างกัน มีค่ากลางของพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 (p<.001) ความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม พบว่า ความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อมมีความสัมพันธ์ทางลบกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับที่.05 ( rs = -0.14, p <.05 ) The purpose of this descriptive research was to study the preventive behavior of osteoarthritis patients, and to analyze factors such as sex, age, body mass index, severity of osteoarthritis, fall history, balance ability, and the confidence in balancing which were related to the fall preventive behavior of Osteoarthritis patients in Wat Salut community, Bang Phli District, Samut Prakan Province. We have sampled 280 knee osteoarthritis patients. The tool consisted of 5 questionnaires. The content of these questionnaires were validated by 3 experts. Reliability of the questionnaires were examined using Cronbach’s alpha coefficient at 0.73,0.80,0.90,0.98,0.94 and 0.77. Data analysis by descriptive statistics such as frequency, median and quartiles 1-3. Comparison fall prevention behaviors by using Mann-Withney U, Kruskal-Wallis test, and correlation analysis between osteoarthritis severity, and fall preventive behaviors of osteoarthritis patients by using Spearman’s rho. Data were collected between March– May 2020. The results showed that fall preventive behaviors (94.29%) were at a high level. The comparison of fall prevention behavior was classified by gender, age group, and fall history, and we found that different genders had the mean of fall preventive behavior statistical significance (Z = - 2.39, p<.05). Males had more fall prevention behaviors than females. A comparison of fall preventive behavior classified by body mass index, postural confidence and balance ability by using statistics Kruskal-Wallis test found that different levels of confidence in balance, there were significant differences in the mean values of fall preventive behaviors with statistical significance .01 (p<.001). Correlation analysis between osteoarthritis severity and fall preventive behavior of osteoarthritis found that osteoarthritis severity had negative correlation with fall prevention behavior at the level .05 statistical significance (rs =-0.14, p<.05). |
Description: | สามารถเข้าถึงบทความฉบับเต็มได้ที่ https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/243848/169504 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/2325 |
ISSN: | 0859-9343 (Print) 2651-1398 (Online) |
Appears in Collections: | Nursing - Artical Journals |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Factors-Related-to-Fal-Prevention-Behavior-of-Patients.pdf | 129.67 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.