การศึกษาประสิทธิผลการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฝังเข็มร่วมกับการนวดทุยหนาในผู้สูงอายุ เขตอําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการฝังเข็มและการฝังเข็มร่วมกับการนวดทุยหนาในผู้สูงอายุที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมที่อาศัยอยู่ในอําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จํานวน 61 ราย จากนั้นใช้โปรแกรม SPSS 21.0 แบ่งผู้เข้าร่วมวิจัยออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม 30 ราย และกลุ่มทดลอง 31 ราย ด้วยวิธีการสุ่ม กลุ่มควบคุมรักษาด้วยการฝังเข็มเพียงสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ20 นาที กลุ่มทดลองรักษาด้วยการฝังเข็ม 20 นาที และนวดทุยหนา 10-15 นาที สัปดาห์ละครั้ง ระยะเวลาการรักษาของทั้งสองกลุ่มคือ 8 สัปดาห์ และได้รับการประเมินด้วยแบบสอบถาม Western Ontario และ McMaster Universities Arthritis Index (WOMAC) ก่อนการรักษา(0), 3, 5 และ 8สัปดาห์หลังการรักษา และวิเคราะห์ผล WOMAC ด้วยค่า t-test ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มทดลองมีอายุเฉลี่ย 66.09 ปี ค่าดัชนีมวลกาย (BMI)25.93 กก./ม.2ระยะเวลาของอาการปวดอยู่ที่ 4.64 ปี กลุ่มควบคุมมีอายุเฉลี่ย 64.86 ปี ค่าดัชนีมวลกาย26.48 กก./ม.2และระยะเวลาแสดงอาการปวดอยู่ที่ 4.00 ปี ทั้งสองกลุ่มมีอายุเฉลี่ย ค่าดัชนีมวลกายและระยะเวลาของอาการไม่แตกต่างกัน (P>0.05) การเปรียบเทียบก่อนการรักษาของทั้งสองกลุ่มกับหลังการรักษา พบว่าหลังการรักษา อาการปวดลดลงและการทํางานของข้อดีขึ้น (P<0.001)การเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมหลังรับการรักษา พบว่า คะแนนอาการปวดมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.001)กลุ่มทดลองมีความสามารถในการทํางานของข้อเข่าดีขึ้นกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.001) แต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติกับอาการข้อฝืดข้อยึด (P>0.05) ผลการศึกษาโดยรวม พบว่า คะแนน WOMAC ในกลุ่มทดลองลดลงอย่างมีนัยสําคัญ (P<0.001) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม สรุปการฝังเข็มร่วมกับการนวดทุยหนาในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิผลและให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการฝังเข็มเพียงอย่างเดียวคําสําคัญ: โรคข้อเข่าเสื่อม ผู้สูงอายุ ฝังเข็ม นวดทุยหนา

The objective of this study was to determine the effectiveness of acupuncture and acupuncture combined with Tui Na massage for elderly patients with knee osteoarthritis. 61 patients from Bangphli district, Samutprakarn province were using SPSS 21.0 program randomly divided into two groups: 30 cases of the control group were treated by acupuncture alone once a week, for 20 minutes per time,while 31 cases of the treatment group were treated by acupuncture for 20 minutes and TuiNa massage for 10-15 minutes, once a week. The duration of treatment in both groups was 8 weeks. The Western Ontario and McMaster Universities Arthritis Index (WOMAC) was assessed before and at 0, 3, 5 and 8 weeks after treatment. SPSS 21.0 program was used to analyze the result. The average age of the treatment group was 66.09 years, body mass index (BMI) was 25.93 kg/m2, duration of symptoms was 4.64 years; in the control group, average age was 64.86 years, BMI 26.48 kg/m2, and duration of symptoms was 4.00 years, and the result showed there was not a statistically significant difference between the two groups (P>0.05) on average age, BMI, and duration of symptoms. The result also showed the treatment in two groups improved pain and function (P<0.001); the WOMAC score of pain relief showed a statistically significant difference between the treatment group and control group (P<0.001); the treatment group could significantly improve knee function and total WOMAC score after treatment compared with the control group (P<0.001); but there was no statistically significant difference on joint stiffness symptom (P>0.05). The result also showed the WOMAC score in the treatment group was significantly decreased (P<0.001) compared with the control group.Conclusion: Acupuncture combined with Tui Na massage in the treatment of knee osteoarthritis was the most effective treatment option and had a better therapeutic effect than acupuncture alone.