การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรคไตเรื้อรังและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจากผลการตรวจสุขภาพประจำปีของลูกจ้างที่ทำงานในมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

Abstract

ประเทศไทยมีประชากรวัยทำงานอยู่ประมาณ 40 ล้านคน และพบว่ากว่า 1 ใน 10 ของคนกลุ่มนี้มักเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์โรคไตเรื้อรังต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของกลุ่มลูกจ้าง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย แม่บ้าน คนสวน และพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี พ.ศ. 2561 มาวิเคราะห์หาการเกิดโรคไตเรื้อรัง โดยข้อมูลที่นำมาศึกษามีจำนวนทั้งสิ้น 160 ราย ประกอบด้วยเพศชาย 61 ราย และเพศหญิง 99 ราย อายุเฉลี่ย 50+-9 ปี เมื่อแบ่งกลุ่มข้อมูลเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ คนที่มีอายุน้อยกว่า 45 ปีและมีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป มาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างค่าอัตราการกรองของไตกับการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง) โดยใช้สถิติ Chi-square ปรากฏว่าไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างโรคไตเรื้อรังกับโรคไม่ติตด่อเรื้อรังทั้งสามภาวะดังที่กล่าวมา อย่างไรก็ตามควรมีการเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงที่มีอัตราการกรองของไตต่ำกว่าปกติ

In Thailand, the workforce is around 14 million and one out of ten of this population is often affected by chronic diseases. This research aimed to seek the correlation between chronic kidney disease and non-communicable diseases of employees. Samples consisted of housekeepers, gardeners and security staffs who work at Huachiew Chalermprakiet University. Theses workers were then analyzed for the occurrence of chronic kidney disease (CKD) from the annual health check-up of 2018. The data were obtained from 160 employees comprised of 61 males and 99 females with an average age of 50+-9. Subjects were divided into two groups: younger than 45 years old and 45 years old or older. The relationship between glomerular filtration rate (GFR) and non-communicable diseases (NCDs) which include diabetes, hypertension and lipidemia were then analyzed using Chi-square statistics. It was found that the incidence of chronic kidney diseases was not associated with any NCDs (three of those diseases) was mentioned. However, people who had the risk of reduced GFR should be kept in check.