Please use this identifier to cite or link to this item:
https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/700
Title: | Relations between Levels of Proficiency and Gender on English Communication Strategies Used by Mathayom 3 Students at Kurumitprasitsil School |
Other Titles: | ความสัมพันธ์ของระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษและเพศกับกลวิธีการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนคุรุมิตรประสิทธิ์ศิลป์ |
Authors: | Suthida Soontornwipat สุธิดา สุนทรวิภาต Warantri Nanta-umpond วรันตรี นันทอัมพร Huachiew Chalermprakiet University. Faculty of Liberal Arts |
Keywords: | โรงเรียนคุรุมิตรประสิทธิ์ศิลป์ Kurumitprasitsil School ภาษาอังกฤษ -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) English language -- Study and teaching (Secondary) การสื่อสาร Communication |
Issue Date: | 2016 |
Publisher: | Huachiew Chalermprakiet University |
Abstract: | This study investigated what communication strategies are used by high and low proficiency students, and compare the communication strategies used by male and female students. The participants consisted of 40 students at Kurumitprasitsil School. The students' average grades in four subjects include English for conversation1 (Eng.11101), English for conversation2 (Eng.11102), English for conversation3 (Eng. 21101), and English for conversation4 (Eng.21102) were used as a criterion to classify students into high and low proficiency groups. Consequently, there were 20 students in the high proficiency group and 20 students in the low proficiency group. And there were 17 male students and 23 female students. The data from the students in the accomplishment of the role play and definition plan tasks were analyzed both qualitatively and quantitatively. It was found that high proficiency students utilize "use of fillers" mostand low proficiency students utilize "code switching" mostin the role play task. High proficiency students utilized "pausing" strategy most in the definition plan task. Low proficiency students utilized "circumlocution" most in the definition plan task. Moreover, it was found that male students utilized "use of fillers", and "code switching" most in the role play task. Female students utilized "use of fillers" most in the role play task. On the definition plan task, male students utilized "circumlocution" most strategy, and female students utilized "pausing" is the most strategy. Finally, since this study recommended that the teaching of CSs should be included in the syllabus, it would be valuable for further studies to investigate the teachability of CSs to enhance the ability of English communication. การศึกษามีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษากลวิธีการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนคุรุมิตรประสิทธิศิลป์ ที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันว่ามีการใช้กลวิธีการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างไร และเปรียบเทียบคาวมแตกต่างในการใช้กลวิธีการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชายและนักเรียนหญิง กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 40 คน ใช้เกรดเฉลี่ยในวิชาภาษาอังกฤษ 4 วิชา คือ วิชาการสนทนาภาษาอังกฤษ 1 (Eng. 11101) วิชาการสนทนาภาษาอังกฤษ 2 (Eng. 11102) วิชาการสนทนาภาษาอังกฤษ 3 (Eng. 21101) และวิชาการสนทนาภาษาอังกฤษ 4 (Eng. 21102) ที่เรียนในชั้นมัยธมศึกษาปีที่ 1 และ 2 เป็นเกณฑ์ในการแบ่งกลุ่ม นักเรียนที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับสูงจำนวน 20 คน และระดับต่ำ จำนวน 20 คน แบ่งเป็นเพศชาย 17 คน เพศหญิง 23 คน ใช้การแสดงบทบาทสมมุติ และการอธิบายคำศัพท์เป็นเครื่องมือในการศึกษา ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณ โดยหาค่าร้อยละและการจัดลำดับ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับสูงใช้กลวิธีการเพิ่มคำ (use of fillers) และระดับต่ำใช้ กลวิธีการสลับภาษา (code switching) มากที่สุดในการแสดงบทบาทสมมุติ นอกจากนี้ ในการอธิบายคำศัพท์ นักเรียนที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษระดับสูงใช้ช่วงเงียบ (pausing) มากที่สุด และระดับต่ำ ใช้กลวิธีการพูดอ้อม (circumlocation) มากที่สุด ในการแสดงบทบาทสมมุตินักเรียนชายใช้กลวิธีการสลับภาษา (Code switching) และการเพิ่มคำ (use of fillers) มากที่สุด นักเรียนหญิงมีการใช้กลวิธีที่เหมือนกัน คือ กลวิธีการเพิ่มคำ (use of fillers) มากที่สุด นอกจากนี้ในการอธิบายตำศัพท์ นักเรียนชายใช้กลวิธีการพูดอ้อม (circumlocation) มากที่สุดและนักเรียนหญิงใช้ช่วงเงียบ (pausing) มากที่สุด ผลการศึกษาจะเป็นแนวทางให้ผู้สอนนำไปเป็นข้อมูลและนำไปปรับปรุงรูปแบบวิธีการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ทักษะทางการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น |
Description: | Thesis (M.A.) (English for Professional Communication) -- Huachiew Chalermprakiet University, 2016 |
URI: | https://has.hcu.ac.th/jspui/handle/123456789/700 |
Appears in Collections: | Liberal Arts - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Warantri-Nanta-Umpond.pdf Restricted Access | 1.39 MB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.