ศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมการออกกำลังกายของกลุ่มคนทำงานที่มาใช้บริการที่แคลิฟอร์เนียฟิตเนสสีลม

Abstract

การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้คนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปัจจุบันกลุ่มคนทำงานไม่มีเวลาในการออกกำลังกายเนื่องจากเป็นพนักงานบริษัทต้องทำงานให้ทันกับเวลาและงานที่มากจนทำงานเลยเวลาเลิกงาน บางท่านนั่งทำงานกับเก้าอี้นานทำให้มีอาการปวดเอวหรือ ปวดหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากขาดการออกกำลังกาย การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของกลุ่มคนทำงานระหว่างบุคลากรชายและบุคลากรหญิงที่มาใช้บริการที่ California Fitness Silom จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 400 ราย ได้รับแบบสอบถามคืนมา 400 ฉบับ คิดเป็น หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ตามวิธีทางสถิติ โดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่า T-test และเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรชายและบุคลากรหญิงงานวิจัยเรื่อง ศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมการออกกำลังกายของกลุ่มคนทำงานระหว่างบุคลากรชายและบุคลากรหญิงที่มาใช้บริการที่ California Fitness Silom มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัย 3 ประการ คือ 1. เพื่อศึกษาพฤติกรรมด้านการออกกำลังกายและสถานภาพของผู้ออกกำลังกายระหว่างบุคลากรชายกับบุคลากรหญิง 2.เพื่อศึกษาความต้องการในการบริการด้านการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสมรรถภาพของกลุ่มคนทำงาน 3.เพื่อศึกษาความต้องการรูปแบบของกิจกรรมที่ให้บริการด้านการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสมรรถภาพทางกายของกลุ่มคนทำงาน จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้มาใช้บริการออกกำลังกายระหว่างบุคลากรชายและหญิง โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นบุคลากรชายและบุคลากรหญิงไม่เท่ากัน โดยเป็นบุคลากรชายร้อยละ39.4 และบุคลากรหญิงร้อยละ 60.6 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 44.00 และอายุระหว่าง 21-30 ปี ร้อยละ 40.50 สถานภาพเป็นโสดร้อยละ 61.6 และสมรสแล้วร้อยละ 38.40 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีร้อยละ 64.40 รองลงมามีการศึกษาระดับปริญญาโทร้อยละ 6.60 อาชีพของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอาชีพอื่น ๆ ร้อยละ 19.5 รองลงมาเป็นอาชีพผู้บริหาร ร้อยละ 11.8 รายได้ของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรายได้ระหว่าง 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 29.50 รองลงมามีรายได้ระหว่าง 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 27.1 ระยะเวลาที่เป็นสมาชิก Fitness พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นสมาชิก Fitness 3-4 ปี ร้อยละ 30.30 รองลงมาเป็นสมาชิก Fitness 1-2 ปี ร้อยละ 23.9 จำนวนวันในการออกกำลังกายต่อ 1 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ออกกำลังกาย 3-4 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 31.8 รองลงมาออกกำลังกาย 2-3 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 25.8 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่มีโครงการบริการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกาย ร้อยละ 85.00 ส่วนที่เหลือมีโครงการบริการด้านการออกกำลังกาย คิดเป็น ร้อยละ 15.00 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่เคยมีส่วนร่วมในโครงการบริการด้านการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกายภาพ คิดเป็นร้อยละ 74.2 ส่วนที่เหลือเคยมีส่วนร่วมในโครงการบริการด้านการออกกำลังกายคิดเป็นร้อยละ 25.8 ในด้านความต้องการบริการด้านการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสมรรถภาพทางกายภาพกลุ่มคนทำงาน พบว่า กลุ่มคนทำงานที่มาใช้บริการ การออกกำลังกายที่ California Fitness Silom มีความต้องการด้านบุคลากรผู้ให้บริการ “ มากที่สุด ” โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.78 ในส่วนความต้องการด้านกิจกรรมออกกำลังกายที่ให้บริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสมรรถภาพ ความต้องการด้านกิจกรรมการออกกำลังกาย พบว่ากิจกรรมที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่ Intro Step Move and Cyling (การปั่นจักรยาน) กิจกรรมที่มีความต้องการมาก ได้แก่ Intro Step Beginnig, Step Move Advance and Body Combat, Body Balance Taic-hi and Bigham Yoka (โยคะร้อน) ต้องการบริการด้านสถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้หญิงมีความต้องการด้านนี้สูงกว่าผู้ชาย ส่วนกิจกรรมการออกกำลังกายที่บุคลากรชายมีความต้องการมากกว่าบุคลากรหญิง ได้แก่ Step Move Advance, Dance Moves, Burn & Tone, Stomp, Body Combat, Body Pump, Latin Fiesta, Low Impact, Meditation Power Step และกิจการรมการออกกำลังกายที่บุคลากรหญิงมีความต้องการมากกว่าชาย ได้แก่ Intro Step Beginning , Intro Step Move, Body Balance, Tai-chi, Cying and Bigham Yoka (โยคะร้อน)